Re: รูปของ BenQ11#2

[BenQ11]

แน่นอนว่าแม้แต่ฮิโซกะก็ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์อะไรตอนนั้นได้

ซึ่ง"ดิน"นี่แหล่ะตัวแรกเลยที่เริ่มเปิดประเด็น

(ผมเคยบอกแล้วว่า เผ่าที่ไม่ควรยุ่ง มันไม่ควรยุ่งจริงๆ)












หลังจากนั้น....

ก็น่าจะเดากันได้....











ไอ้แสบได้อธิบาย เหตุการณ์ในตอนนั้นอย่างค่อนข้างละเอียด

เพราะมันคือ "พลัง" ที่อโลนแสดงให้เห็น ซึ่งมันอาจจะเป็นกุญแจในการเอาชนะหล่อนได้

[BenQ11]

ทุกคนสัมผัสได้ถึงพลังที่แทัจริงของอโลน


ซึ่งไอ้แสบเล่าว่า"บางที"เธออาจจะใช้พลังเพียงครึ่งเดียวเองก็ได้











ไม่สิหรือต้องบอกว่านั่นเพราะเธอเองก็ยังไม่ฟื้นฟูพลังเต็มที่ต่างหาก













มันเป็นการต่อสู้เพียงสั้นๆ

ใช้เวลาประมาณ10กว่านาที

แต่บางทีอาจจะเร็วมากสำหรับบางคน หรือไม่รู้สึกว่าเวลาเดินเลย












ผมค่อยๆประติดประต่อขั้นตอนเรื่องราวที่ไอ้แสบมีจากฐานข้อมูลในหัวมัน

ก็พอจะเข้าใจได้ละว่า พลังที่อโลนใช้นั้นคือพลังอะไร  

แน่นอนเรารู้แล้วว่าพลังของเธอคือDark matter และ Dark energy

[BenQ11]

แต่"ความลับ"ของมัน ทำอะไรได้บ้าง?


เมื่อสิ้นสุดการต่อสู้  ทุกอย่างก็เงียบไป ซึ่งตรงนี้ไอ้แสบบอกว่าเหมือนความทรงจำขาดช่วงรู้สึกได้แต่ไม่เข้าใจว่าอะไรหายไป












..บางคนเข้าใจ  บางคนไม่เข้าใจ บางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ..













ว่า"พลัง"ของอโลนนั้น ได้ครอบงำทุกคนไปแล้ว

[kingkingr]

ยังติดตามอยู่นะครับ

เคยเอาการ์ตูนคุณให้เพื่อนผมอ่าน

เพื่อนผมบอกว่าน่ากลัว...   อิอิ

[BenQ11]

ยังติดตามอยู่นะครับ

เคยเอาการ์ตูนคุณให้เพื่อนผมอ่าน

เพื่อนผมบอกว่าน่ากลัว...   อิอิ

โอ้วขอบคุณครับ 555

[BenQ11]

เงื่อนไขการควบคุม"แสง"โดย Dark matter มันช่างเกินจินตนาการที่ คนทั่วไปจะสามารถไปถึงได้เลย










สรุปโดยง่าย...












"แสง"นั้น เกี่ยวเนื่องกับเวลา แสงก็เหมือนภาชนะในการเก็บเวลาหรือนั่นก็คือเหตุการณ์ต่างๆ

[BenQ11]

ที่ผ่านมา ผมรู้แล้วว่า อโลน ใช้"แสง"ในการ ย้อนดูอดีตที่ผ่านมาของผม

...มันอาจจะเป็น ความสามารถของเผ่าเทพเจ้าอยู่แล้วก็เป็นได้?










ดังนั้นแล้วพลัง Dark Energy ก็อาจจะมีส่วนในการ ดึง"แสง"

ที่มีอยู่นั้นมาใช้ประโยชน์ได้มากกว่าการ"ย้อนดู"










ผมเชื่อว่าหลายท่านก็คงพอจะเดากันได้แล้วแหล่ะนะ ว่า พลังที่อโลนใช้นั้นคืออะไร?

[BenQ11]

มันเหมือนการย้อนฟิลม์กลับหลัง ไปสู่เหตุการณ์ก่อนหน้า









โดยที่ผู้ประสบพบรู้แล้ว จะรู้ว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น









แต่ผู้ที่ไม่ทันได้อยู่ดูย่อมไม่รู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เราเห็นข้างหน้านั้นมีอะไร?(แหงล่ะ)

[BenQ11]

หลังจากที่ผมได้รับฟังข้อมูลจากไอ้แสบพลังของอโลนจบแล้วนั้น ...

คือผมไม่แปลกใจหรอกที่เธอจะสามารถทำได้


แต่มันน่าตกใจที่เธอสารมารถรับมือกับพวกเผ่าที่ไม่ควรยุ่งถึง 3เผ่า (จอมอสูร4ธาตุ(เหลือ3),เจ้าหญิงการเวลา,Dr.Tikarus)


แถมยังมีพวกหน้าใหม่ที่ผมยังไม่รู้จักอีก










มันทำให้ผม ต้องมาประเมินพลังของอโลนใหม่อีกครั้ง









แต่ก็นับว่าพลังที่เธอใช้ครั้งนี้มันได้ผลดี เพราะมันทำไม่ให้เกิดการ"สูญเสีย"

[BenQ11]

อืม...เรียกอย่างนั้นก็ไม่ถูกนัก

"เพราะสูญเสีย"ต่างหาก จึงได้ผล








เท่าที่รู้ก่อนหน้านี้ เธอสามารถดูอดีตแต่ละคนได้ด้วยการ"มองย้อนแสง" ยกเว้นบางกรณีที่แสงเข้าไม่ถึง

เธอสามารถเคลื่อนที่หรือย้อนสิ่งที่เธอจับแตะได้ แต่บางทีแม้ไม่สัมผัสก็เคลื่อนย้ายได้

เธอสามารถฟิวชั่นกับ"ชุด"ที่เธอสร้างขึ้นจากDark matter เพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง

พูดง่ายๆก็คือร่างเธอถูกหุ้มด้วยDark matter มันทำให้ร่างกายของเธอแข็งแกร่งมากขึ้นนั่นเอง

และ การควบคุม Dark energy ที่ดูมันจะมีไปทั่วทุกสรรพสิ่ง นั่นแหล่ะคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด..

แล้วความสามารถล่าสุดที่เรารู้..








...ใช่แล้ว มันคือการใช้Dark energy ย้อนอดีตนั่นเอง...












จบตอน

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx




หลังจากที่แต่ละคน(ที่รอด)รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งที่อโลนมีแล้วนั้น ก็ทำให้พูดจากันง่ายขึ้น

เธอได้อธิบายแบบลวกๆถึงการต่อสู้ในอนาคตที่กำลังจะมาถึง  ผมและไอ้แสบก็ไม่รู้หรอกว่าอโลนรู้ได้ยังไงแต่ก็เดากันว่านี่อาจเป็นเรื่องที่"มอริซ"บอกใว้ก่อนอีกนั่นแหล่ะ(เออะอะไรก็โยนให้หมอนั่นก่อนจะดูเมคเซ้นต์ที่สุดล่ะ)

โดยตำแหน่งที่ๆ"พวกเรา(โรงเรียน)"อยู่นั้นคือตำแหน่งที่ จะมีรอยแตกของจักรวาลที่ใหญ่ที่สุดรวมไปถึงศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดจะออกมา

ซึ่งคำพูดเพียงไม่กี่คำของอโลนนั้นมีน้ำหนักพอที่จะทำให้คนอื่นๆหันมาฟังและสนใจได้














แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าการที่จะมีผู้ทำตามโดยไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนหรอก  แน่นอนว่า ผู้ที่อยู่ตรงนี้"พร้อม"ที่จะเจอกับอันตรายโดยไม่เกี่ยงหรือกว่าที่ทำอยู่นั้นก็เพื่อช่วยจักรวาล...อย่างน้อยก็พวกแก๊งอสูร หรือเผ่าที่ไม่ควรยุ่ง

ขอแค่เจอศัตรูที่น่าลิ้มลอง ก็เพีงพอที่จะเป็นเป้าหมายของพวกนั้นแล้ว...












2วันหลังจากที่ทุกคนเข้าใจตรงกัน  สิ่งที่มอริซทำนายก็เกิดขึ้น  ตำแหน่งการเกิดรอยแตกของจักรวาล  อันเนื่องจาก จักรวาลข้างเคียงเกิดการยุบตัวทำให้พวกที่อยู่อีกฟาก เตรียมย้ายเข้ามาในจักรวาลของเรา

มันก็คงคล้ายๆช้างป่ะที่ไม่มีป่าไม้ให้หากินก็ลงมาในไร่นาสวนของชาวบ้านกระมัง?

หลังจากเหตุการณ์จบไปไอ้แสบก็ได้สำรวจค้นหาข้อมูลในพิกัดการเกิดรอยร้าวมิติมีทั้งหมด666จุดเล็กใหญ่ โดยแต่ละจุดนั้นเองก็มีผู้มีฝีมือรออยู่แล้วเหมือนกัน...

อืม...เส้นทางของมอริซทำเอาผมอึ้งทึ่งอีกแล้ว มันเรียมการได้ถึงขนาดนี้เลยเชียวหรือนี่?

โดยช่วงเวลาเกิดขึ้นเมื่อรุ่งสางของโรงเรียน(เทียบเวลาก็6โมงเช้าพอดี) แรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นแม้เพียงแผ่วเบา แต่หลายคนก็รู้สึกได้ และมั่นใจว่าเวลานั้นมาถึงแล้ว

[BenQ11]

รอยแยกของจักรวาลนั้นแลดูคล้าย"สงครามแสนปี" แต่ไม่มีการกระแทกของมิติทั้ง2 ถึงกระนั้นก็สร้างความตื่นตระหนกสำหรับคนที่ไม่เคยเห็นเกือบทั้งหมด

แหงล่ะ"สงครามแสนปี"ไม่ใช่ที่ๆใครจะไปกันได้ง่ายๆ ถ้าไม่ใช่ระดับ 9เผ่าไม่ควรยุ่งแล้ว เอาแค่การเดินทางไปให้ถึงก็ลำบากล่ะ

ดังนั้นแล้วทุกคนจึงตื่นตัวและระวังตัวกันอย่างเต็มที่รวมไปถึงการวางแผนป้องกันโรงเรียนนี้อย่างดี

เพราะศัตรูนี้มีมากกว่าเราแน่นอน ไอ้แสบมันบอกว่าฝั่งเรามี"นักสู้"อยู่ประมาณ120000

แต่ฝั่งตรงข้ามนั้น เห็นว่ากะคร่าวๆน่าจะมีอยู่ 3000ล้าน อืม...เยอะกว่าตอนที่ผมติดอยู่กับhiggอีกแฮะ...















แต่มันก็เยอะด้วยจำนวน...ไม่สิต้องบอกว่า "ฝั่งเรา" มีขุมกำลังที่แกร่งกว่าก็เท่านั้น พวกตัวเก่งๆมันก็มีอยู่นะ แต่ก็ไม่เกินกำลังของทางฝ่ายเรา

โดยสงครามนี้จบภายใน60ชั่วโมง ทุกชีวิตที่อยู่ฝั่งตรงข้ามตายเกลี้ยงเกือบหมด

เหลืออยู่ไม่กี่10ตัวที่ไอ้แสบจับเป็นมาทดลองก่อนจะตายห่าหมดในภายหลัง

นับว่าเร็วมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะเรียกว่าเป็นมหาสงครามใช่ใหมล่ะ? แต่เชื่อเถอะสงครามจริงมันเป็นแบบนี้แหล่ะ ซัดกันตูมเดียวแล้วเชคบิลแบบไม่มีช่วงพักเที่ยงหรือตั้งป้อมดูเชิงแบบหน่อมแน้ม

แน่นอนว่าการทำสงครามย่อมมีสูญเสียแต่ฝั่งเราสูญเสียน้อยมากสูญเสียเพียง3000คนจาก120000(ที่เป็นนักสู้)














ใน3000คนที่เสียชีวิตนั้นมี แองเกอร์ฟิช ด้วย...รวมถึงกลุ่มฮู้ดดำที่เหลือเพียงคนเดียวคืออันดับ1(อดีต)หรือก็คือมารฝันในคราก่อนนั้นนั่นแหล่ะ

สรุปเบ็ดเสร็จได้ว่าหลังสงครามจบลงแล้วต่างก็แยกย้ายกันไป แต่มีหลายเรื่องตามหลังมาเกี่ยวกับอโลน อย่าง"ดิน" หรือเซนิท ต่างก็อยากประมือกับเธอในภายหลัง เพราะรู้ว่าถ้าสู้กันตอนนี้ยังไงก็ไม่ชนะ..

คงเพราะได้เห็นพลังที่อโลนแสดงให้เห็นช่วงสงครามสินะ...

รวมไปถึงเหล่าผู้คนที่ต่างยกย่องอโลนว่าเป็น"ผู้กอบกู้"สถานการณ์ด้วยการที่เธออยู่เฝ้าโรงเรียนป้องกันทุกคนใว้

อืม...ฟังแล้วดูตระหงิดแต่ก็ไม่แปลกใจนะ...ที่เธอจะถูกบูชาได้ ขนะไอ้เจ้าพวกตัวประหลาดยังยอมรับเธอเลย

แล้วอย่างนี้ผมจะจัดการกับอโลนอย่างไรดี?

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx




หลังจากที่ฟังเรื่องราวของไอ้แสบจบแล้ว ก็ตามต่อด้วยเรื่องของควอซ่า...ไม่สีเรื่องของพัลซ่าสินะ?.....

ตอนแรกเธอต้องการให้ผมใช้วิชาอ่านความคิดเพื่อความรวดเร็ว แต่ผมก็ปฏิเสธไปเพราะผมเชื่อว่าการใช้วิชานี้นั้นมันจะส่งผลเสียมากกว่าผมดีเปรียบดั่ง"บาป"หรือ"ค่าตอบแทน"ในการใช้วิชานี้

ผมเห็นท่าทีของควอซ่า สะอึกเมื่อผมพูดประโยคแบบนี้ออกไป เธอจึงเริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกมา












หลังจากมหาสงครามจบลง เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบ2ปี ช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูโรงเรียน และปรับเปลี่ยนระบบบางอย่าง เนื่องจาก "อโลน"ไม่ได้อยู่ในห้องกาลเวลาเทียมอีกแล้ว

แต่บางครั้งเธอก็พักอาศัยอยู่ในห้องนั้น ซึ่งก็ไม่เคยมีใครนอกจากเบลค ที่เข้าออกห้องนั้นอีกเลยจึงไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ห้องนั้นเป็นยังไงแล้ว

นั่นหมายถึงโรงเรียนจะไม่ได้ใช้พลังงานจากอโลนอีกต่อไป

จึงเป็นเหตุให้ร๊อปบิ้น(ไอ้แสบ)จำต้องหาวิธีใช้พลังงานจากทางอื่น จึงไม่โพล่หน้ามาให้เห็นพักใหญ่ๆจนกว่าระบบพลังงานจากโรงเรียนจะเสถียร

ตามด้วยควอซ่ากับเซร่าที่ออกตามหาผมหลังจากที่ทั้ง2คนขึ้นท๊อปของโรงเรียน จึงรับหน้าที่ออกตามหาผมที่ไม่กลับมา(จริงๆแล้วเป็นแผนการของฮิโซกะเพื่อไม่ให้2คนนั้นเข้าใกล้อโลน โดยไม่จำเป็น)

รวมถึงตัวฮิโซกะเอง ก็ลาหยุดพักร้อนเพื่อไปแสวงธรรมตามความเชื่อของเธอ(อนึ่ง ฮิโซกะเองก็ออกตามหาผมอยู่อีกแรงเช่นกัน)และยังมีคนอื่นๆอีก....ผมรู้สึกเป็นหนึ้พวกเธอจริงๆ

ทางโรงเรียนจึงขาดกำลังสำคัญไปหลายคน "พัลซ่า" จึงต้องรับหน้าที่ต่างๆแทนมากมาย

อืม...เราพูดเรื่องของพัลซ่าอยู่สินะ?












แต่กระนั้น พัลซ่าก็หาได้ทำแต่งานที่โรงเรียนอย่างเดียว โดยเธอเองรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรรเหมือนคนอื่นๆ

ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงแอบฝึก"วิชาดูอดีต" อันเป็นวิชาเดีวที่เธอมีแต่ผมเคยบอกเธอไปแล้วว่า"อย่า"ใช้วิชานี้อีก

พัลซ่าฝึกอยู่ประมาณ1ปีก็สามารถแยกจิตตัวเองออกมาได้ไกลราวๆสัก10กิโลเมตร แม้จะยังไม่ไกลมากเมื่อเทียบกับจักรวาลอันกว้างใหญ่หรือโรงเรียนที่เธออยู่

แต่มันก็เพียงพอที่เธอจะแอบใช้วิชานี้ย้อนดูอดีตคนอื่นๆ ซึ่งเธอเชื่อว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีเบาะแสอะไรบ้าง

[BenQ11]

พัลซ่าใช้เวลายามดึกในการแอบดูอดีตของแต่ละคนโดยเริ่มจากเหล่านักเรียนในชั้นของเธอก่อน  ตามด้วยเหล่าครู เธอทำแบบนี้อยู่3เดือนแต่ก็ไม่มีเบาะแสใดๆ  

จนกระทั่ง"บังเอิญ"ที่ เธอเจอเบลคกลับมาพอดี.....พัลซ่าที่ระแคะระคายเรื่องภายใน แม้เธอจะไม่ได้อยู่ในกลุ่ม(มีผม ไอ้แสบ ร๊อบบิ้น และ ฮิโซกะ)

แต่ด้วยสภาวะตึงเครียดก่อนหน้าที่แม้ไม่มีใครพูดถึงแต่เธอที่อยู่ใกล้ชิดพวกเขาและเธอ  ย่อมรู้สึกได้  จึงเป็นเหตุให้ทั้งหมดเริ่มห่างเหิน(ในหลายๆความหมาย)

และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องร้ายที่กำลังตามมา....














เธอได้รับทราบ"ความจริง"แบบที่ไม่ต้อง มโนเอง แน่นอนว่า พวกเรารู้แล้วว่าใครฆ่าแอน(ยัยเบอร์5)

มันทำให้ผมย้อนนึกได้ว่า ตอนที่ผมเจอเบลคครั้งแรกนั้นมันก็ใช้พลังเปิดมิติเรียกกุญแจห้องกาลเวลาเทียมออกมา

รวมไปถึงสภาพบาดแผลที่เกิดขึ้นไอ้แสบดูแวบเดียวก็เดาได้ไม่ยากว่าเป็นฝีมือใคร?เพียงแต่ไม่มีโอกาสได้บอกผม(ผมถูกส่งไปยังที่อื่นแล้ว)











เบลคได้รับใบคำสั่งเหมือนที่ผมเคยได้(ฮิโซกะได้รับฝากจากมอริซ) ซึ่งในรายละเอียดนั้น พูดถึงการอย่าปล่อยให้ผู้หญิงของผม"ตายก่อนวันที่กำหนด"????

มันคืออะไร?และที่สำคัญมันไม่ได้มีวันเดียว นั่นคือสิ่งที่เบลคตีความได้อย่างนั้นหรือ?

แน่นอนว่าเมื่อพัลซ่าเห็นอดีตส่วนนี้แล้วนั้นเธอรู้ตัวทันทีว่าเธออาจไม่ปลอดภัย  หากไม่มีเหตุการณ์แอน(ยัยเบอร์5)ถูกสังหาร เธอก็อาจจะไม่เข้าใจคามหมาของใบสั่งใบนี้

[BenQ11]

และเมื่อพัลซ่าพยายามเจาะลึกถึงมูลเหตุมากขึ้น เธอก็ได้รู้อีกว่าความสัมพันธ์ของของ เบลคและมอริซไม่ค่อยดีนัก(อันนี้ผมรู้อยู่แล้ว)

รวมไปถึง"อโลน"ที่เธอเพิ่งพบตัวจริงเมื่อไม่นาน จะมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกว่าที่คิดใว้

อันนี้ผมขอละใว้ในฐานที่เข้าใจเพราะ พัลซ่าเธอเองไม่ได้รู้ในเรื่องที่พวกผมรู้...ควอซ่าเช่นกัน















พัลซ่ารู้ได้เลยว่า เบลคนั้นมีใจให้แก่อโลน(ผมรู้อยู่แล้ว) ทุกอย่างที่เบลคทำนั้น อยู่ในสายตาของอโลน กลับกัน การกระทำของอโลนนั้นก็อยู่ในสายตาเบลคเช่นกัน

อืม...รู้สึกเดจาวูคุ้นๆแฮะ คล้ายไอ้แบบที่ไอ้แสบมันสโต๊กเกอร์อาบิสจังหรือเปล่าหว่า?

ไอ้พี่น้องตระกูนี้มันโรคจิตกันหรือไง?

แต่เอาเถอะจากที่ควอซ่าเล่านั้นแลดูเธอพูดถึงเบลคในด้านที่ไร้อคติเมื่อเบลคและอโลนมีปฏิสมัพันธ์กัน(ก่อนที่เธอจะถูกขังโดยมอริซและไอ้แสบ)













....แต่จากที่ผมวิเคราะห์แล้ว ผมเชื่อนะว่า การที่อโลนมาเป็นเมียของมอริซไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรหรอก มัน"จงใจ"แน่นอน(เหมือนพูดไปแล้วรอบนึงแฮะ)

แต่ด้วยจุดประสงค์สิ่งใด บอกตามตรงว่าผมเริ่มสับสนแล้วจริงๆตอนแรกก็อยากจะเชื่อนะว่าเพื่อป้องกันมหาสงคราม ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ได้ค่อนข้างดีมากๆ

แต่มันมีแค่นี้เองจริงๆเหรอ? การเสียสละส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่เป็นเรื่องปรกติที่ไม่ว่าใครก็เข้าใจ ถ้าสิ่งที่เสียสละนั้นหาใช่ของๆเรา....











และยิ่งไปกว่านั้น พัลซ่าเธอได้รู้ถึงขุมพลังที่อโลนมาผ่าน"อดีต"ของเบลค

ว่าอโลนนั้นคือตัวอันตรายอย่างแท้จริง...

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx


[spoiler]





พัลซ่าเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเพราะ "บังเอิญ" ว่าวันนี้คือวันที่ "อาจ"จะต้องมีคนใดคนหนึ่งถูกกำจัดตาม คำทำนายของมอริซ ที่เบลคได้รับมา

เธอติดต่อกับคนที่เธอใว้ใจอย่างไอ้แสบ ส่วนควอซ่า ฮิโซกะและเซร่าที่มีแนวโน้มว่าอาจจะโดนกำจัดซึ่งเธอติดต่อไม่ได้

ไอ้แสบได้บอกให้เธอซ่อนตัวไปก่อนรอจนกว่าเขาจะกลับมารวมไปถึงเขาจะติดต่อควอซ่าให้เอง เพราะเขาได้ให้ควอซ่าไปทำงานให้เขา

แต่ด้วยความร้อนใจเธอจึงรีบเดินทางไปหาลูกสาว ในเวลารุ่งสาง














และระหว่างทางนั่นเองที่เธอได้เจอ"เบลค" ที่เหมือนจะดักรอเธออยู่ก่อนแล้ว.....หรือเป็นความบังเอิญอีก?















พัลซ่าตกใจมากและพยายามรวบรวมสติ แสร้งพูดคุยเหมือนว่าไม่มีอะไร แม้ลึกๆแล้วเธอแทบจะกลั้นน้ำตาไม่ได้เมื่อเธอคิดใว้แล้วว่า

การที่เธอเจอเบลคตอนนี้ ซึ่ง"เธอ"อาจจะเป็นคนต่อไป

แต่เธอก็ยังคงใจดีสู้เสือวัดใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ด้วยประสบการณ์ที่ผ่าน(หากใครยังจำอดีตของพัลซ่าได้)มาทำให้เธอยังคงสติได้อย่างดี

แน่นอนว่าครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมีประสบกาณ์ที่อันตรายเฉียดตาย

[BenQ11]

....ไอ้แสบได้เสริมเรื่องความลับขุมพลังของเบลค  ผมเคยคิดว่าเบลคนั้นอ่านใจคู่ต่อสู้ได้  เพราะผมเคยต่อสู้กับมันหลายครั้ง

อย่าว่าแต่เอาชนะมันได้เลย แค่อัดให้โดนมันยังยากถ้าไม่เป็นท่าที่หลบไม่พ้นจริงๆ จนนึกว่ามันอ่านใจได้ ซึ่งความจริงแล้ว"ประสบการณ์"ต่างหากคือความลับที่เบลคมี

การผ่านการต่อสู้ที่โชคโชนการเสาะแสวงหาจุดอ่นหรือจุดผิดพลาดของศัตรู มันทำให้เบลคสามารถมองเห็น"สี ออร่า"ของฝ่ายตรงข้ามที่แผ่ออกมา ซึ่งมันบ่งบอกถึงสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามคิดอ่านจะทำอะไรในก้าวต่อไป

แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นด้วยตาเปล่า มันเป็นนามธรรมที่เรียกว่าเป็นเหมือนเซนต์พิเศษอ่างสไปเดอร์แมนกระมัง

หรือให้ยกตัวอย่างก็เหมือนฮิโซกะที่อ่านสถานการณ์เป็น เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้ด้วยข้อมูลต่างที่มีเพียงเล็กน้อย...

และนั่นทำให้เบลครู้ว่าพัลซ่านั้นโกหกเขา....

พัลซ่าจึงไม่อาจรอดพ้นสถานการณ์นี้ไปได้...
















เมื่อได้รับฟังเรื่องราวผมหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างแรง ว่าเพราะอะไรเบลคถึงทำได้ถึงขนาดนี้  คนมีประสบการณ์โชกโชนอย่างเบลคสามารถใช้ประสบการณ์ที่มีในการตัดสินใจ

แต่กลับเชื่อและเดินตามเส้นทางของมอริซโดยไม่เอะใจอะไรบ้างหรือ?.....

ถึงผมจะคิดแบบนั้นก็เถอะ แต่เอาจริงๆแแล้วผมก็เข้าใจเรื่องนี้อย่างดี  แม้แต่ไอ้แสบเองก็เช่นกันที่เชื่อ กระทั่งผมเองก็ไม่อาจที่จะคัดค้านอะไร กับสิ่งที่เกิดขึ้น

เพราะผมเองก็ยังคิดว่า ณ ตอนนี้ผมเองก็ยังคงอยู่ใน"เส้นทาง"ของมัน













กลับมาที่เรื่องควอซ่า(พัลซ่า) เบลคคิดจะใช้พลังของตัวเองสลายร่างของพัลซ่าให้หายไปเป็นผง

แต่ก็ถูกหยุดโดย อาจารย์ของเธอ ไอ้แสบที่รีบกลับมาแม้จะไม่ทันการแล้วก็ตามที










...ขอโทษที่ผมคิดแบบนี้ ผมคิดว่าผมเริ่มสนุกกับเรื่องที่ควอซ่าเล่าเสียแล้ว

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx


[spoiler]



ผมไม่รู้ว่าทั้ง2ปัจจุบันมีความสัมพันธ์กันแบบใหน แต่อย่างที่บอกไปเมื่อนานแล้ว ทั้ง3(มอริซ เบลค ร๊อบบิ้น)แม้จะเป็นพี่น้องกัน แต่ก็หาได้มีความสนิทกัน ทั้งๆที่พวกมันก็ค่อนข้างจะไปใหนมาใหนด้วยกันบ่อยๆ

ผมคิดว่าบางทีอาจเป็นเพราะมอริซนั่นแหล่ะที่ทำให้พวกมันไม่มีความใว้เนื้อเชื่อใจกันตลอดมา

ความสัมพันธ์แบบหลวมๆนี้ทำให้2พี่น้องไม่จำเป็นต้องเกรงใจอะไรกัน

มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้คนอายุหลักล้านปีเจอหน้ากันตลอดแต่กลับไม่มีความสัมพันธ์กันเลย













จากคำบอกเล่าของไอ้แสบและควอซ่า โดยร่างกายของพัลซ่านั้นไม่อาจรักษาได้ทันแล้ว เพราะร่างกานของเธอนั้นเป็นเพียงคนธรรมดา ไม่เหมือนยัยเบอร์5ที่มีสมรรถภาพร่างกายที่แข็งแรงกว่าแม้จะอ่อนแอลงไปเยอะกว่าแต่ก่อน

รวมไปถึงเบลคคงขัดขวางการรักษาแบบทันท่วงที ดังนั้นไอ้แสบจึงคิดออกได้เพียงเรื่องเดียวในขณะนั้น

"บังเอิญ" ที่พัลซ่าพกหนังสือเวทย์มาด้วย ซึ่งเป็น1ในไม่กี่สิ่งที่มันไม่ควรจะพกมาด้วย แต่นี่คือเส้นทางของมอริซ หากเธอจะพกมาพอดีคงไม่มีอะไรน่าแปลกใจ













ด้วยความเยือกเย็นของไอ้แสบ ในก็ใจเย็นพอที่จะคิดวิธีช่วยเหลือ พัลซ่าได้ แต่ก็ต้องเสี่ยงด้วย

เพราะเรื่องหลังจากนี้จะเรียกว่าเป็นพระสงค์ของพระเจ้า(เส้นทางของมอริซ)เท่านั้นที่จะรู้ผลลัพธ์

[BenQ11]

ควอซ่าเล่าให้ฟังถึงสถานการณ์ตอนนั้นก็คิดว่าตัวเองจะไม่รอดเสียแล้ว  แต่ที่เธอยังพอมีสติได้ก็มาจาก การถ่ายพลังชีวิตโดยไอ้แสบ ทำให้เธอพอจะมีสติได้ประมาณ2-5นาที

เธอเกือบที่จะสูญเสียกำลังใจไปแล้ว หากแต่ได้ยินเรื่องที่ไอ้แสบบอกแผนการต่อจากนี้















แผนการนั้นคือ การให้พัลซ่าแยกวิญญาณตัวเองออกจากร่างที่กำลังจะตาย  อย่างน้อยก็ช่วยยืดเวลาของเธออกไปได้มาขึ้น

ส่วนไอ้แสบจะถ่วงเวลาขวางเบลคให้  ส่วนควอซ่านั้นเขาได้ติดต่อให้เฝ้ารอดูสถานการณ์ อยู่ก่อนแล้ว  แน่นอนว่านี่เป็นแผนเฉพาะหน้า

ดังนั้นอย่าลังเลที่จะใช้เวทย์ที่เธอเคยคิดจะใช้ในอดีต

นั่นคือเวทย์ผสานตัวเองกับปีศาจ


(หากใครจำเรื่องราวของพัลซ่าและควอซ่าไม่ได้ จะย้อนให้หน่อย พัลซ่าโดนคำสาบจากดรากันผู้เป็นแม่ ทำให้เธอจะถูกเหล่าปีศาจใช้เธอเป็นเครื่องสังเวย

ทำให้เธอศึกษาเวทย์ผสานตัวเองกับปีศาจเพื่อที่จะได้เป็นวิญญาณที่มีเจ้าของ เหล่าปีศาจจากมุมมืดจะได้ไม่มายุ่งกับเธอ

แต่ควอซ่าลูกสาวของเธอกลับประสบภัยทำให้เธอบาดเจ็บสาหัสเธอจึงจำต้อง ผสานร่างของควอซ่าใว้กับปีศาจที่เธอเลือกใว้ เพื่อรักษาชีวิตแต่ด้วยความไท่เข้ากันของวิญญาณทำให้ควอซ่ากลายเป็นร่างอย่างที่เห็น)

ซึ่งตอนนี้คงถึงเวลาที่เธอจะต้องผสานวิญญาณกับปีศาจและลูกสาวของเธอ)

















ซึ่งแผนการนี้จะสำเร็จหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายโดยเฉพาะ ไอ้แสบที่จะปกป้องพัลซ่ายังไงให้เธอได้มีเวลาท่องบทเวทย์เสร็จ















ซึ่งควอซ่าได้บอกว่า พวกเธอรอดมาได้ แต่แน่นอนว่าตอนนั้นเวลามันกระชั้นชิดมากๆ จนพวกเธอเองก็คิดว่าไม่น่าจะทำได้ทันเหมือนกัน

[BenQ11]

ตอนนั้นไอ้แสบเองก็ไม่แน่ใจว่า ตัวเองจะถ่วงเวลาได้เท่าใดนัก และแม้มันเองก็คิดคำนวนมาก่อนแล้วว่า"อาจ"จะเกิดเหตุการณ์ที่ตัวเองควบคุมไม่ได้

แต่ก็ไม่ทันคิดว่า"อโลน"จะตามมาด้วย ทำให้ไอ้แสบไร้ซึ่งหนทางใดอื่นนอกจากรับสภาพความพ่ายแพ้เพราะความ"กลัว"





ด้วยความฉลาดของไอ้แสบจึงรับรู้ถึงความหวาดกลัวไปถึงอณูเซล เหมือนนกน้อยเลือกกิ้งทำรัง การต่อกรกับอโลนเป็นเรื่องที่ยิ่งกว่าสิ้นคิดซึ่งไอ้แสบรู้ซึ้งกับเรื่องนี้มาก

ดังนั้นร่างกายของไอ้แสบจึงเปิดระบบป้องกันตัวเองอย่างอัตโนมัติทันที










ผมจำได้ว่าก่อนหน้าไอ้แสบเคยพูดเรื่องคำทำนายจากพี่ชายมัน ไอ้แสบเคยพูดว่ามันจะตายเพราะผู้หญิงหรือเพื่อผู้หญิงยังไงนี่แหล่ะ มันก็เลยตัดสินใจว่าถ้าตายเพราะปกป้องฮิโซกะมันก็ยอมได้

แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้นเพราะมันเคยพลาดพลั้งการช่วยฮิโซกะในคราก่อน(ก่อนมหาสงคราม)แต่ยังดีที่พลังของอโลนทำให้ฮิโซกะยังไม่ตาย

แต่กับครั้งนี้แล้วดูท่าว่าความหมายของคำทำนายนั้นน่าจะหมายถึง เขาจะตายเพราะปกป้องพัลซ่านั่นเอง...














แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า ตัวเองคงไม่รอด แต่มันก็"คุ้มค่า"พอที่จะเสี่ยง โดยไอ้แสบมันเตรียมใจใว้ตั้งแต่คราที่มันไม่สามารถช่วยฮิโซกะได้

มันจึงวางแผนสำหรับตัวเองใว้ล่วงหน้าด้วยโปรเจคลับที่มันไม่เคยบอกใครแม้แต่ผมหรือพวกพัลซ่า

แต่หลังจากที่ผมรู้ถึงโปรเจคลับอะไรนั่นผมก็อุทานอ๋อทันที


แต่กลับเข้าเรื่องก่อน

ไอ้แสบได้ปลดลิมิตตัวเองแล้วหันไปหยุดยั้งเบลคและอโลนอย่างน้อยก็ถ่วงเวลาในระดับหนึ่ง

[BenQ11]

ไอ้แสบจัดการพาทั้ง2ให้ออกห่างจากพัลซ่าที่กำลังรวยริน และถ่วงเวลาให้ ควอซ่าที่กำลังรอดูสถานการณ์เข้าช่วยเหลือ

โดยทั้ง2(3)ต่างก็ใช้ประสบการณ์ตัดสินสถานการณ์อย่างเต็มที่













แน่นอนว่า มีเวลาไม่มากนัก

[BenQ11]

.....แต่รู้ใหมว่าผมคิดอะไรอยู่?

เชื่อเถอะแม่แต่ควอซ่า หรือไอ้แสบก็คิดเหมือนผม













ผมเชื่อว่านี่เองก็เป็น1ในเส้นทางที่มอริซคำนวนใว้ให้พวกเราเดินตาม


การที่พัลซ่าพกหนังสือเวทย์ การที่ไอ้แสบพา2คนนั้นไป การที่ควอซ่ามาถึงตัวพัลซ่าทันที














ล้วนอยู่ในการคำนวนใว้แล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

[BenQ11]

ดังนั้นแล้ว เวลาที่ไอ้แสบถ่วงใว้นั้นก็"เพียงพอ" ที่จะไม่ทำให้เบลคและอโลนนั้นสงสัย
















เมื่อพัลซ่าได้ย้ายจิตวิญญาณของตัวเองไปสู่ควอซ่าได้ทันแล้ว ดังนั้นร่างเนื้อของเธอจึงหาได้จำเป็นอีกต่อไป














ส่วนไอ้แสบนั้น....ตาย

[BenQ11]

ซึ่งการตายของไอ้แสบนั้นก็อยู่ในการคำนวนของเจ้าตัวเหมือนกัน มันจึงเปิดระบบโปรเจคลับที่มันซุ่มทำใว้ด้วยการ

โคลนและปรับแต่งร่างโคลนของตัวเองกับกับวัสดุโลหะที่มันเคยโดนคำสาบ เมื่อใดที่ไอ้แสบตายร่างโคลนก็จะเริ่มทำงาน

และความทรงจำ"เกือบ"ทั้งหมด จะถูกเปิดใช้งานด้วยทำให้ไอ้แสบแม้ตายก็ไม่ได้ตายแต่ก็ไม่ใช่ตัวมันเหมือนเดิม










แม้ความทรงจำจะมีอยู่แต่มันก็ได้ตัดข้อมูลเรื่อง"อารมณ์"ออกไป เพื่อที่ตัวมันคนใหม่จะได้ไม่กลัวอโลนด้วยสัญชาตญาณ

ทำให้ไอ้แสบในร่างใหม่นี้ยังคงความแข็งแกร่งเหมือนเดิม(และอาจมากกว่าเดิม)












ด้วยเหตุผลข้างต้นไอ้แสบจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต่อกรกับเบลคและอโลนอีกแล้ว...อย่างน้อยก็ตอนนี้

ดังนั้นไอ้แสบจึงแยกตัวไปทำวิจัยของมันต่อไป เพื่อ"สักวัน"ที่มันจะได้เวลาเอาคืน

ซึ่งทางเบลคและอโลนก็ไม่ได้ตามต่ออะไรเพราะการรบรากับไอ้แสบก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนัก

เมื่อต่างคนต่างแยกย้ายความสงบก็กลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่กระนั้นเห็นว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ไอ้แสบก็โดนอโลนทำลายร่างไปหลายครั้งอยู่น่าจะสัก20ร่างได้(สงสัยไปกวนตีนอโลนอีก ตายแล้วฟื้นได้เลยอเอาใหญ่*3*)

[BenQ11]

กลับมาที่ ควอซ่า...หรือพัลซ่าดี? หลังจากที่เธอ(ควอซ่า)ได้รวมวิญญาณกับแม่(พัลซ่า)ของเธอ

ความทรงจำในอดีตความรู้สึกที่ผ่านมาของทั้งคู่ก็ได้หลอมรวมกัน ควอซ่าได้รับรู้ถึงอดีตที่พัลซ่าเคยเจอ พัลซ่าเองก็ได้รับรู้ถึงอดีตของลูกสาว

ต่างก็มีอดีตที่ขมขื่นจนคิดอยากตายอยู่หลายคราในระหว่างนั้น ทั้ง2จมอยู่กับอดีตที่ทุกข์ทรมาณอยู่1อาทิตย์เต็มๆ กว่าความทรมาณที่ทั้ง2ได้แลกประสบการณ์กันก็สิ้นสุด

...มันทำให้พวกเธอซึมไปเป็นเดือนเหมือนกัน


ผมรู้สึกแย่มากที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย









ใหนจะเรื่องที่พวกเธอจำต้องตัดขาดกับเพื่อนพ้อง(ยกเว้นไอ้แสบ) การใช้ชีวิตอยู่แต่ในSnake Nebula ที่ๆซึ่งหลุดพ้นสายตาของอโลน

และใช้เวลาอยู่กับการฝึกฝนร่างกายและช่วยไอ้แสบพัฒนางานวิจัย

แต่ในความขืนข่มก็ทำให้ควอซ่าและพัลซ่าเข้าใจซึ่งกันและกันจนอาจจะกลายเป็นแม่ลูกที่สนิทกันมากที่สุดในระดับวิญญาณเลยทีเดียว....

การที่พวกเธอได้เจอผมอีกครั้งทำให้พวกเธอดีใจมาก

.....ใช่ผมเองก็ดีใจ แต่เมื่อผมมารับรู้ถึงสภาพของทั้ง2แล้ว....เพียง55ปีมันเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยหรือ?

หรือเพราะชีวิตคนเรามั้นสั้นนัก?