Re: รูปของ BenQ11#2

[BenQ11]

ผมส่งซิกบางอย่างกับไอ้แสบ เพื่อให้เตรียมตัวรับมืออโลน

แต่ท่าทางของไอ้แสบแลดูจะไม่ค่อยใว้ใจผมเท่าให่นัก ก็แหงล่ะ

แม้แต่มันยังเอาไม่อยู่ แล้วแผนของผมจะไหวใหม?

แต่ก็ยังดีกว่าไม่ลองล่ะนะ....
















แผนที่ว่าคืออะไรน่ะเหรอ??



ก็ที่บอกไปเมื่อกี้ไง เมื่อเห็นอาหารเลิศรส....ก็ "กิน"ไง





















ผมใช้พลังที่สะสมมากว่า20ปีเพื่อการนี้ และทุ่มลงไปในคราเดียว


ในการกลืนกินร่างของอโลน คล้ายที่ผมเคยทำกับ"เฮลเกท" หรือไอ้เจ้าลูกศิษย์"อดีต"อันดับ1(มารฝัน)ยังจำได้ใหมนี่?(ฮา)


......ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ


ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่ออกมาเป็นอย่างนั้น พลังของผมน้อยเกินไป นี่ขนาดเฟิร์มร่างกายกับฮิกส์มานานปีแล้วนะนี่...

ในเมื่อได้แค่นี้ ก็ต้องใช้แผนอื่น


ผมบอกกับอโลนไปว่า นี่คือ "สายสัมพันธ์" ที่เชื่อมถึงผมและเธอไม่ว่าจะไกลเพียงใดผมก็จะใช้สายสัมพันธ์นี้กลับมาหาเธอได้เสมอ

แน่นอนว่าถ้าเธอจะทำลายทิ้งก็ได้เพียงนิดเดียว

แต่แลดูเธอจะชอบมันมาก....

[BenQ11]

แม้จะผิดแผนแต่ก็ทำให้ผมได้รับรู้ข้อพิสูจน์อย่างอื่นแทน....











"เบลค"กลายเป็นคนของอโลนไปเรียบร้อยแล้ว คือผมก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกนะ จึงทำให้ผมพอจะทำใจกับเรื่องนี้ได้

จะเรียกว่าทำใจก็ไม่ถูกนักเพราะผมไม่สนใจหรอกว่าพวกสิ่งมีชีวิตประเภทตัวผู้มันจะเป็นยังไง แต่เรื่องครั้งนี้มันมีคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย

ดังนั้นแล้วผมต้องมาเคลียร์กับมันแน่นอนแต่ไม่ใช่ตอนนี้...











จริงๆผมก็มีแอบๆคิดนะว่า

เรื่องของแอน(ยัยเบอร์5)จะเป็นฝีมือของมัน และเหตุจูงใจก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผมจะคาดเดาไม่ได้....เพราะคำทำนายของมอริส

น่าเบื่อใช่ใหมล่ะ? อะไรๆก็มอริส แต่ดูจากการที่มันถูกอโลนสูบพลังไปแบบนั้นก็คงจะเป็นหนทางที่มันสมหวังดังใจแล้วกระมัง...

[BenQ11]

เอาเถอะเรื่องนี้พักใว้ก่อน เพราะผมยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำและอยากรู้อีกมากมายระหว่างที่ผมหายไป... อย่างแรกเลย

ผมต้องการที่จะเจอแอน(ยัยเบอร์5)

แต่ก่อนอื่นไอ้แสบมันเสนอให้ผมใส่อุปกรณ์สะกดพลังใว้ก่อน เนื่องด้วยตัวผมในตอนนี้ได้แผ่ออร่าและจิตสังหารออกมาสูงมาก

ผมก็ไม่แน่ใจหรอกว่าผมแผ่ออกมาเพียงใดจนถึงกับต้องสะกดใว้

แต่ผมแน่ใจว่าผมต้องแผ่ออกมาเยอะแน่ๆเมื่อผมรู้ว่า"ถุงมือ"คู่นี้ถูกพัฒนามาจาก "สายรัด"ของ"พัลซ่า"












....นั่นหมายถึงพัลซ่าไม่ต้องใช้มันอีกต่อไปแล้ว 55ปีคงยาวนานเกินไปสำหรับเผ่ามนุษย์ทั่วไปสินะ...

ถึงกระนั้นไอ้แสบกลับพูดความไม่ปรกติในเรื่องพัลซ่า ...งั้นแม่ลูกคู่นี้ผมจะพูดคุยเป็นลำดับถัดไป...

กลับมาที่เรื่องแอน(ยัยเบอร์5)ก่อน ผมเลือกที่จะเดินทางไปหาแอนก่อนเพราะเธอเป็นคนแรกที่ผมต้องการจะเห็นเธอหลังจากที่ขาดช่วงไปถึง50กว่าปี










จากข้อมูลที่ได้มาจากไอ้แสบ เพราะนอกจากสมองของเธอที่เสียหายจากการเสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว อวัยวะภายในต่างๆก็ถูกทำลายและอ่อนแออยู่ก่อนแล้ว

มหาสงครามก็ได้เกิดขึ้นตามคำทำนายของมอริสหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นไม่นานนัก

ทำให้การรักษาค่อนข้างติดขัด ไอ้แสบจึงตัดสินใจรักษาสภาพร่างของแอนใว้ก่อนด้วยวิธีของมัน

[BenQ11]

แต่เป็นเรื่องดีที่สงครามนั้นจบไว(รายละเอียดเอาใว้ทีหลัง) ไอ้แสบใช้เวลา2ปีในการรักษาร่างกายเธอและใส่"หัวใจของลักชัวลี่" ซึ่งจำต้องใช้เวลากว่าร่างกายและหัวใจจะปรับเข้ากันนานกว่าปรกติ เนื่องด้วยร่างกายที่เสียหายหนักนี่แหล่ะ

เอาจริงๆมันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะนำร่างที่เสียหายเกินกว่า60%มารักษาให้หายเป็นปรกติ ก็ต้องยกความสำเร็จที่หัวใจลักชัวลี่นั้นแข็งแรงมากและตอบสนองต่อร่างกายที่ทรุดโทรมโดยกระตุ้นให้ร่างกายนั้นรักษาฟื้นฟูตัวเองในระดับที่ดีมากในระดับหนึ่ง

ส่วยอวัยวะบางส่วน เช่นแขนซ้ายกระดูกสันหลังบางส่วนไม่สามารถฟื้นฟูเองได้ก็ยังคงใช้อวัยวะเทียมทดแทน ส่วนแผลกลางตัวกับแผลเป็นอื่นๆนั้นไอ้แสบทำการศัลยกรรมเรียบร้อยประหนึ่งว่าเธอไม่เคยมีแผลนี้...

แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ"สมอง"ของเธอนั้นหยุดสั่งการมานาน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ต้องใช้เวลา แอนจึงหลับนิททราไป14ปีในสภาพจำศีลและเมื่อฟื้นมาเธอก็เหมือนผ้าขาวที่ต้องแต่งเติมลงไปใหม่....















ใช่แล้ว...ความทรงจำทั้งหมดของเธอหายไปหมดแล้วนั่นเอง....นั่นจึงเป็นหน้าที่ของ "อันดับ2"(ในตอนนั้น) ที่เข้ามาอาสาดูแลเธอตั้งแต่ช่วงที่เธอนิทราไป14ปีจนเธอฟื้น และคอยดูแลสอนเธอทุกอย่างตั้งแต่เรื่องการกินขับถ่ายจนเธอมาใช้ชีวิตแบบคนปรกติได้ก็

อีก10ปีเหมือนเลี้ยงเด็กก็มิปาน(เท่าที่รู้ฮิโซกะและเซร่าก็มีแวะมาแนะนำในเรื่องของผู้หญิงด้วย)

หลังจากที่แอนสามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบคนปรกติได้ เธอก็ได้แต่งงานกับ"อันดับ2" และย้ายรกรากไปอยู่ที่ดาวดวงหนึ่ง ซึ่งพวกเธอไปสร้างครอบครัวและประกอบอาชีพปลูกดอกไม้ขาย ซึ่ง"อันดับ2"เคยเปิดร้านขายที่นี่(โรงเรียน)ใว้เมื่อคราก่อน













ไม่รู้ว่ายังจำ"อันดับ2"ได้ใหม? คนที่เคยเป็นคู่หูของแอน(ยัยเบอร์5)ไง ก่อนที่เจ้าตัวจะเลื่อนอันดับ1-5 ตามกฏโรงเรียนจะต้องดำเนินการคนเดียว(6-10 สามารถรวมกลุ่มได้2คน) ส่วนแอนอยู่ที่อันดับ5

เจ้าหมอนี่เคยมาเยี่ยมแอนตอนที่เธอเข้าโรงพยาบาลหลังจากต่อสู้กับผู้นำกลุ่มฮู้ดดำ และ ช่วยอำนวนความสะดวกในการเปิดทางให้พวกผมออกจากดาวบ้านเกิดของแอนในตอนที่สู้กับ"เผ่าเลือด" และเป็นเจ้าของร้านที่ผมสั่งดอกไม้เพื่อจัดงานแต่งของผมและแอน...















แม้ที่ว่ามานี้ผมจะไม่เคยเจอหน้าของ"อันดับ2" แต่ผมก็รู้ทันทีว่า หมอนี่คือเผ่าNatas เผ่าแห่งนักรบที่มีตา2สี ที่มีอายุขัย700-800ปี แต่ส่วนใหญ่อยู่ไม่ถึงเพราะเผ่านี้มันมีชีวิตอยู่เพื่อรบราจนตาย ผมจำได้แม่นว่าเธอเคยบอกผมเรื่องใฝใต้ตาซ้ายในตอนที่พวก

เรารับงานช่วงแรกๆ....ผมมั่นใจได้ทันทีเมื่อผมได้มองเห็นลูกสาวของเธอ.....












จบตอน

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx





[spoiler]



หลังจากที่ผมได้เห็นหน้าของ ไอรี (Iree)ผมถึงกับผงะเลยในตอนนั้น เพราะไม่คิดว่า ลูกสาวของเธอจะแลดูเหมือนแม่(แอน)มากขนาดนี้...


..."ที่นี่" สภาพแวดล้อมดีมากๆ มีแต่ทุ่งดอกไม้ที่ส่งกลิ่นดอก Oblivion (แต่ออกจะฉุนไปนิด)

ผมถามหาถึงแม่ของเธอ(ไอรี) ซึ่งเธอได้วิ่งไปตามแม่ของเธอ ทำให้ผมยืนนึกถึง คำกล่าวบทพูดต่างๆที่อยากจะพูดกับเธอ....

แน่นอนว่าผมต้องคำนึงถึงสิ่งที่ไอ้แสบมันบอกด้วยว่า

เธอไม่ใช่"แอน"คนเดิมที่ผมได้รู้จัก เธอเป็นเหมือน "คนที่เกิดใหม่ แค่รูปร่างหน้าตาเป็นแอนเท่านั้น" ผมย้ำเรื่องนี้ในใจได้ดี

จากที่รู้จากลูกสาวของเธอ ว่าตอนนี้แอนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ทำให้ผมมีเวลาในการคิดคะนึงคำพูดต่างๆ.....

แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เมื่อผมได้เห็นหน้าเธอ(แอน)อีกครั้ง....

เพราะในหัวของผมขาวโพลนไปหมดจนลืมไปแล้วว่าผมจะพูดอะไร











....แม้เวลาจะผ่านไปกว่า50ปี แต่ด้วยการจำศีลของร่างกายผนวกกับความแข็งแรงของหัวใจลักชัวลี่

ที่ฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายจนทำให้เธอไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลย....ไม่สิเปลี่ยนไปนิดหน่อย...


ไอ้ห่าแสบเอ๊ย ทำไมเอ็งไม่บอกกันก่อนวะ....













พูดแล้วก็น่าอาย ผมแทบจะลืมตัวไปเลยว่าตัวเองกำลังคิดหรือทำอะไรอยู่

มันเป็นช่วงเวลาแห่งความรู้สึกล้วนๆ เหมือนคนตกใจบ้านไฟใหม้แล้ววิ่งยกโอ่งน้ำออกมานอกบ้านแบบไม่รู้ตัว

ทั้งๆที่ผมก็อยู่มานานมากแล้วนะ แต่กลับไม่เคยชินกับความรู้สึกแบบนี้สักที

ผมคงอายมากแต่ก็สารภาพว่าในตอนนั้นผมอยาก...โอบกอดเธอ ด้วยความยินดี

ช่วงเวลา 55ปีที่ผมทิ้งเธอไป 3000กว่าปีที่ผมจากมา มันทำให้ผมเกือบจะลืมเธอไปจริงๆ

จำได้แต่ชื่อ...ผมจินตนาการถึง ใบหน้าเธอในอนาคต...ไม่สิ บางทีผมก็ถอดใจไปแล้วว่าอาจจะไม่ได้เจอเธออีก

[BenQ11]

แต่ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกผิดต่อเธอ ที่ผมไม่อาจดูแลเธอได้ หรือเติมเต็มความรู้สึก...ความต้องการของเธอ

ทำให้ผมสะดุ้งจากอารมณ์ส่วนตัว และหันไปมอง "ห่วงโซ่" ที่เชื่อมกับอโลน...เธอคงมองดูผมอยู่...

ผมรู้สึกตัวทันทีว่า "พอได้แล้ว" อย่าให้แอนต้องเข้ามาพัวพันกับตัวผมอีกเลย....

















มันคงจะดีกว่า ถ้าเรื่องราวดำเนินไปอย่างนี้


แถมเธอก็ดูมีความสุขกับชีวิตใหม่ รวมไปถึงชีวิตตัวน้อยๆที่เธอเคยใฝ่ฝันอีกด้วย


ผมควรยินดีในจุดๆนี้สินะ?














เมื่อตั้งสติได้ตัวเองได้ ผมก็ชวนคุยสัพเพไปเรื่อย ตะล่อมเก็บข้อมูล

ซึ่งพอจะทำให้รู้ว่า เธอโดนไอ้แสบบอก(หลอก)ว่า เธอนั้นประสบอุบัติเหตุ ในช่วงมหาสงครามเมื่อหลายปีก่อนแต่มันไม่บอกว่ากี่ปี

ทำให้สมองของเธอกระทบกระเทือนอย่างแรง และก็ได้แฟนของเธอดูแลในระหว่างที่เธอนอนไม่รู้สึกตัวซึ่งก็คือ(อดีต)อันดับ2

ที่สมัยก่อนพวกเธอเคยคบกันระหว่างเป็นนักเรียน(ไอ้แสบแม่งเชรี่ยจริงๆ...)

โดยที่บ้านของเธอนั้นถูกผลจากสงครามนั้นทำให้หลักฐานต่างๆก่อนหน้านั้นถูกทำลายหมด เธอจึงไม่รู้อดีตที่แท้จริงว่าเธอเป็นใครมาจากใหน

จึงเป็นการง่ายที่เธอจะถูกสร้างประวัติของเธอใหม่ ว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าที่เคยอยู่ที่เดียวกับ(อดีต)อันดับ2 ก่อนที่ทั้งคู่จะออกมาเข้าโรงเรียนแห่งนี้

ซึ่ง(อดีต)อันดับ2นั้น วันนี้ออกไปทำภารกิจกับลูกคนรอง....อีกคน....

หลังจากนั้นไม่นานไอ้แสบมันก็ตามมาพร้อม สะกิดบอกให้ผม เลิกเซ้าซี้เรื่องส่วนตัวเธอได้แล้ว เพราะอาจจะส่งผลกระทบทางจิตใจของเธอ

ซึ่งผมก็เห็นด้วย....อย่าทำให้เธอต้องรำลึกถึงเรื่องอดีตจะดีกว่า...

[BenQ11]

ผมเลยแต่งประวัติตัวเองมั่งว่าผม เป็นผอ.โรงเรียนที่เธอเคยออกมา(ก็จริงนี่นา)
แต่พอดีเดินทางไกล

ซึ่งตอนนี้กลับมาแล้ว ก็พบว่าร้านดอกไม้ที่เคยอยู่ที่โรงเรียน(ก็ร้านเจ้าอันดับ2นั่นแหล่ะ)ย้ายมาอยู่ที่นี่

จึงสั่งดอกไม้จากพวกเธอและสั่งจ่ายในชื่อไอ้แสบ(แม่งกวนตีน แกล้งแม่งเลย)




สรุปเรื่อง.... แอน(อารีศรม) หรือยัยเบอร์5 ตอนที่พบกับผม เธออายุ17 และอยู่กับผม จนอายุ 23(6ปี) ก่อนที่จะเกิดเรื่อง...

เธอหลับไป14ปี และใช้เวลา 10ปีในการฟื้นฟูตัวเอง จากนั้นก็แต่งงานกัน ตอนนั้นก็อายุ 47

จากนั้น4ปีต่อมาเธอก็ให้กำเนิดบุตรคนแรก และคนต่อๆมา รวมแล้ว7คน(รวมเด็กในท้อง) ซึ่งเป็นผู้หญิง6คน ผู้ชาย1คน(ที่อยู่ในท้อง)

ปัจจุบัน เธออายุ 78 ปีนับตามปีเกิด แต่ผลพวงจากการรักษาร่างทำให้เธอ อายุอ่อนลงไปอีก20ปี(ในช่วงจำศีล)

จึงนับได้ว่าเธออายุ58 ซึ่งนั่นหมายถึงเธอยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกนาน มีชีวิตที่มีความสุขได้ทำตามความฝันของตัวเองได้อีกมากมาย


น่าเสียดายที่วันนี้ผมได้เจอลูกๆของเธอไม่ครบ ขาดคนโตซึ่งปัจจุบันเธอเป็นอันดับ1ของโรงเรียน กับคนรองเป็นอันดับ2(ที่ไปกับพ่อ)

โดยครอบครัวนี้มีลูกสามคนที่เรียนโรงเรียนเวทย์มนต์(คนที่3อยู่อันดับ4 คนที่ปิดตาข้างนึงน่ะ)












หลังจากที่พูดคุยกันพอสมควรแล้ว ก็ได้เวลาไปเสียที....

ในขณะที่ผมหันหลังให้กับพวกเธอและกำลังเดินจากไป

ก็ยังนับว่าเป็นโชคดี ที่ลูกสาวคนโตนั้นกลับมาพอดี


"นีน่า"(Nina)คือชื่อของเธอ


ดังนั้นจึงมีโอกาสได้เจออีกคนที่.....















ดูเหมือนแม่ของเธอ....


เธอดูเหมือนแม่ของเธอในสมัยก่อน ที่แววตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ แต่แฝงไปด้วยความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเสมอ

ลูกสาวคนโต ก็อายุประมาณแอนในตอนนั้นเลยสินะ....

มันยิ่งทำให้ผมนิ่งอึ้งอีกคราจนหาได้พูดอะไร จนไอ้แสบต้องแนะนำตัวแทนผม

อืม...ดาบที่ผมเคยให้แอนใช้ ตอนนี้อยู่ที่เธอสินะ?....

[BenQ11]

ผมย้อนนึกถึงอดีต ในตอนที่ได้พบกับแอนจนถึงปัจจุบัน

6ปี ที่เรารู้จักกัน มันเร็วมากนะสำหรับคนที่มีอายุยืนยาวเช่นผม แต่มันก็เยอะพอที่แอนนั้นได้เจออะไรมามากมาย

ชีวิตที่เฉียดตายถึง5ครั้ง มันมากเหลือเกินในเวลา6ปี

มันถึงทำให้ผมเคยมีความคิดที่จะแยกห่างจากเธอ ซึ่งนั่นเพราะผมให้ความสำคัญกับเธอ...ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเข้าใจผมหรือเปล่า?
















แต่มันโคตรตลกเลย ไม่ว่าตอนนั้นผมจะพยายามถอยจากเธอไปเพียงใดสุดท้ายเธอก็ยังคงอยู่กับผมเสมอ

แต่พอตอนที่ผมอยากจะอยู่กับเธอ เธอกลับอยู่ห่างจากผมแบบโคตรไกล....

เอาเถอะ ยังไงก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆแล้ว ถ้าหากนี่เป็น1ในเส้นทางของมอริซ ก็นับว่ามันสร้างเส้นทางที่ดีแล้วสำหรับเธอ

เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป...แค่ผมคนเดียวก็พอ...


















ผมรู้สึกละอายจริงๆที่ผมทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายเสมอในระยะเวลา6ปี

แต่เธอกลับมีครอบครัวแสนสุขในเวลา50กว่าปีกับคนอื่น...

[BenQ11]

เฮ้อ.....



ช่างเถอะ


มันก็คงเหมือนทุกที...นั่นแหล่ะ


จะว่าไปแล้ว นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เกิดขึ้นกับผมนี่นะ...


ในเมื่อลงเอยแบบนี้ ผมก็ควรจะยินดี....ยินดีมาก


ยินดีมากจริงๆ...

















.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.








"งานเลี้ยงยังมีเลิกลา การพบพานถึงเวลาต้องลาจาก"





























เรื่องราวของยัยเบอร์5 จึงขอจบลงเพียงเท่านี้......



















จบตอน

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx


[spoiler]



หลังจากเมื่อวานที่ผมได้เห็นชีวิตการเป็นอยู่ของแอน(ยัยเบอร์5) ไอ้แสบก็ชวนผมไปนั่งกินดื่มเพื่อให้สงบจิตใจก่อน เพราะหลายอย่างมันประดังเข้ามาเยอะมาก

เหมือนคนติดคุกอยู่50กว่าปีแล้วไม่รู้จักว่าอะไรคือสมาร์ทโฟนเลยต้องมาค่อยๆปรับตัวกันสักนิด เพระาหลังจากนี้คงจะต้องเจออะไรที่มากกว่านี้อีก..


...อาจเป็นเพราะช่วงเวลานั้น ผมเลยดันไปพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องให้ไอ้แสบฟัง... มานึกๆดูก็แปลกนะที่ผมดันเล่าเรื่องต่างๆให้ไอ้แสบฟัง

เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ผมก็ไม่ได้สนิทอะไรกับมันแม้จะรู้จักกับมันมานาน ยังไงดีล่ะ? เหมือนคนอยู่หมู่บ้านเดียวกันแต่ก็อยู่กันคนละซอยกระมัง?

บางทีเล่าให้ฮิโซกะฟังยังจะดีกว่าเสียอีก แต่ก็เอาเถอะเรื่องที่ผมพูดก็เป็นเรื่องของแอน(ยัยเบอร์5)ซึ่งเธอก็เป็นคนไข้ในการดูแลของไอ้แสบอยู่แล้ว..ก็เลยเล่า...มั้ง?

แต่มาวันนี้ผมก็พอจะเข้าใจคัวเองได้....คงเพราะผมกลัวการถูกลืมมากกว่า...ผมกลัวมากๆ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปรกติที่ผมจะต้องเจอ

ไม่สิแม้แต่ผมเองก็ลืมใครสักคนที่สำคัญเหมือนกันตามกาลเวลาผมคงไม่มีสิทธิพูดอะไรมากนักหรอก



"อืม....ดาวดวงนี้ เป็นแร่เหล็กทั้งตาวรึนี่?"












กลับมาเรื่องไม่เป็นเรื่องต่อ หลังจากที่ไอ้แสบฟังเรื่องที่ผมพูดไปตามอารมณ์เมามาย(นิดหน่อย) มันก็เลยเสนออะไรบางอย่าง

พอดีระหว่างที่เรากำลังจะไปที่ "Snake nebula"ไอ้แสบมันอยากให้ผมไปรอมันที่ดาวดวงหนึ่ง เป็นดาวเกิดใหม่จากสงครามเมื่อ50ปีก่อนในช่วงที่ผมไม่อยู่

เป็นดาวที่ถูกอัดแน่นจนเหลือแต่โลหะ...พอดีมีคนที่คิดผมคงอยากเจอมากๆ แต่ไม่อยากพูดออกมา...

ผมเดาเลยนะว่า ไอ้ความคิดนี้ไม่ใช่ความคิดของไอ้แสบแน่ๆ น่าจะเป็นความคิดของฮิโซะกะมากกว่า

เพราะไอ้คนที่ว่าผมอยากเจอนี่.....แม่งแสบจริงๆ
















เนื่องด้วยคนที่ผมอยากเจอนั้นอาจจะต้องมีการเตรียมการอะไรบางอย่าง ไอ้แสบเลยรออยู่ที่ดาวsahan ดาวที่แอนอยู่นั่นแหล่ะ

เมื่อเตรียมการเสร็จก็จะไปพบกันที่ดาวสนัดหมายอีกทีนึง


จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไขนาดนั้นหรอก แต่จากข้อเสนอของไอ้แสบแล้ว ก็นับว่า"วินๆ"กันหมดน่ะ

เรียกได้ว่าต่างคนต่างก็จะได้คลายความคาใจกัน


ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะพอเดาๆกันได้อยู่หรอกมั่งครับว่า ผมจะเจอใคร? ก็อดีตอันดับ2 สามีของแอนยังไงล่ะ เห็นพูดกันถึงหลายครั้งแล้วใช่ใหมล่ะ?"อันดับ2"

[BenQ11]

อันดับ2ยินดีที่จะมาพบเจอผม  เพราะมันเองก็คงมีอะไรติดค้างคาใจกับผมเหมือนกัน  เพียงแต่....

มันดันขอกลับไปที่บ้าน เพื่อขอ"ดาบ"จากลูกสาวของเธอ  เพราะมันรู้ดีว่า ดาบเล่มนี้มัน....เคยเป็นของผม...

ตอนแรกผมนึกว่ามันจะเอาดาบเล่มนี้มาใช้เป็นจิตวิทยากับผม











แต่ผมคิดผิด....ไม่นึกเลยว่าตั้งแต่ผมได้ดาบเล่มนี้มา จะมีคนที่ 5 ที่สามารถใช้ดาบนี้ได้...ไม่สิต้องบอกว่าใช้ดาบเล่มนี้ "เป็น" แม้ว่าจะไม่ค่อยมีใครได้จับดาบเล่มนี้บ่อยๆก้ตามที

เพราะนอกจากจะฝึกใช้มันจน"ชำนาญ"แล้วยังต้องทำให้ดาบนั้น"ยอมรับ"อีก และที่สำคัญมันเป็นดาบของคนที่"ถนัดซ้าย"เท่านั้น  ทำให้น้อยคนที่จะใช้ดาบเล่มนี้ได้

แสดงว่า "อันดับ2" คงฝึกใช้จนสำเร็จได้ในระยะไม่นาน....อืม....นับว่ามีพรสวรรค์

















ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง.....แม้จะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว  


ก็ถือว่าได้ประโยชน์กันหมด















เอาเถอะ...ถือว่า เป้นค่าทำขวัญของผมล่ะกัน....













จบตอน



[/spoiler]

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx



[spoiler]


ผมมล่วงหน้ามาที่ฐานลับ(สเน๊ค เนบูล่า) เนื่องด้วยไอ้แสบต้องพา"อดีตอันดับ2"กลับไปรักษาที่โรงเรียนอีกรอบ  

เอ่อ...ผมว่าผมก็ไม่ได้ทำให้ถึงตายนะ คงไม่เป็นไรมากมั้ง?  จำได้ลางๆว่า หักกระดูกมันไป15-16ท่อนนี่แหล่ะ แต่เผ่านี้มันน่ากลัวจริงๆขยับได้แต่คอยังคาบดาบใว้อีก..

ช่างเถอะกลับมาเรื่องสำคัญก่อน  เมื่อผมมาที่นี่(สเน๊คเนบูล่า)  แน่นอนว่าอโลนที่คงเฝ้าดูผมอยู่ที่ใหนสักแห่ง  จะไม่สามารถมองเห็นผมได้ เพราะที่นี่ ถูกสสารรบกวนแสง(อโลนใช้แสงเป็นสื่อในการมอง)

เธอคงจะออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน  ซึ่งผมเองก็ไม่อยากให้อโลนหาที่นี่เจอ  ผมจึงแยกอีกร่างทิ้งใว้ที่โรงเรียน...เฮ้อ  นี่ผมต้องทำเรื่อนฝืนธรรมชาติตัวเองด้วยเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ?

แต่กระนั้นมันก็คุ้มค่ากับที่ทำ เพราะผมได้เจอกับ "ควอซ่า" ที่นี่ด้วย  เธอเองหลบเลี่ยงอโลนอยู่เช่นกันหลังจากที่ "พัลซ่า"เสียชีวิต











แต่หลังจากที่ผมเห็นหน้าควอซ่าแล้ว....แม้เธอไม่ได้บอกอะไรนอกจากใบหน้าที่โศกเศร้าเสียใจมากกว่าดีใจที่เห็นผม  แม้ปากเธอที่พร่ำพูดว่ารอผมมานาน

ซึ่งผมเองก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเธอแม้ว่าเธอจะมีวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ  แต่เธอกลับเหมือนแม่ของเธอมาก....

ผมจึงไม่ได้ถามอะไรต่อ และปลอบเธอให้หายตื่น รอให้ไอ้แสบมาอีกที....















ไม่นานนัก ไอ้แสบก็มาพร้อมข่าวดีที่ว่า อโลนนั้นไม่ได้เอะใจเรื่องที่ผมแยกร่างออกมา แต่ก็กำชับผมอีกคนใว้ว่า "อย่า" เคลื่อนไหวใดๆ

[BenQ11]

เอาล่าขอเข้าเรื่องเลยล่ะกันเพราะ"ที่นี่" ลอดพ้นการเฝ้ามองของ"อโลน"


มีหลายเรื่องที่ผมอยากรู้ระหว่างที่ผมหายไป...เพียงแต่ผมจะเริ่มจากใครก่อนดีล่ะ?


เอาเป็นว่าผมของฟังเรื่องราวหลังจากที่ผมหายไปจนถึงช่วงมหาสงครามที่ว่าก่อนล่ะกัน

ไอ้แสบคงจะเล่าได้ละเอียดกว่า















....หลังจากที่ผมหายไป ก็เกิดเรื่องราวมากมายภายใน2ปี เริ่มจาก"อโลน"ออกมาจากห้องกาลเวลา และหายไปช่วงหนึ่งพร้อมกับเบลค

ที่ไอ้แสบรับรู้ได้เพราะว่า ยังจำกันได้ใหม? ที่ว่าโรงเรียนนี้ใช้พลังงานที่สูบมาจากอโลนนั่นเอง เพื่อป้องกันไม่ให้อโลนมีพลังมากเกินไป จึงขังเธอและคอยสูบพลังเธอมาใช้เป็นพลังงานในโรงเรียน

แต่แล้ววันหนึ่งพลังงานที่ว่านั้นก็ขาดหายไป ทำให้หลายฝ่ายต้องช่วยกันหาพลังงานสำรองทดแทน แต่บางครั้งพลังงานก็กลับมา (อโลนน่าจะกลับมาเอง)

ต่อมาก็เริ่มมี พวกมีออร่านักสู้มาสุมที่โรงรียน ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะใช้นักท่องเที่ยว แม้จะลองสอบถามดูแล้ว ต่างก็บอกว่ามาท่องเทียวกัน ซึ่งมัน"บังเอิญ"มาก....

และยิ่งใกล้ถึง"วันนั้น"แล้ว ก็ยิ่งมีพวกที่ไม่น่าจะมาที่โรงเรียนนี้ได้ อย่างพวกที่เคยมางานศพของ"มอริซ"(พี่ชายไอ้แสบ)

ทำให้ตัดสินใจประกาศให้โรงเรียนจำต้องหยุดเรียนชั่วคราว

และเปลี่ยนมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวต้อนรับแขกทั้งหลายแทน(โรงเรียนนี้นอกจากจะเป็นสถาบันศึกษาแล้วยังเป็นสถานที่เที่ยวด้วยยังจำกันได้ใหมหว่า? ผมยังเคยเปิดร้านขายหมูสเต๊ะเลย)

ต้องของคุณฮิโซกะที่เธอดูแลเรื่องบัญชี ต่างๆและจัดการเอกสารได้อย่างดี(พัลซ่าก็ช่วยทำด้วยนะ)















และในอีก5วันสุดท้ายก่อน"วันนั้น"จะมาถึง ก็เริ่มมี "พวกมีปัญหา" มาถึงจนได้

[BenQ11]

"เซต้า"(แองเกอร์ฟิช) ผู้นำกลุ่มฮูดดำ คงจำกันได้นะ...แต่ผมลืมมันไปแล้วล่ะ*3*
มันเอง ก็มาที่นี่ด้วยซึ่งก็ไม่ได้น่าแปลกใจแต่อย่างใด เพราะมันเองก็เป็น1ในคนที่เชื่อ"มอริซ"










โดยเซต้ามันต้องการที่จะมาหาผม แต่ดันเจอกับไอ้แสบ

ก็เลยทักทายกันนิดหน่อย









เห็นไอ้แสบมันบอกว่า มันเอา"เข็ม"ที่ผมเคยให้มัน(ไอ้แสบ)ยืมมาคืน

ผ้าคลุมเขียว : "เข็มใหนวะ?"

ไอ้แสบ : "ก็เข็มที่ข้าขอยืม ในตอนนั้นไง พอดีข้าทำตกใว้ที่ดาวมันว่ะ"

[BenQ11]

ผ้าคลุมเขียว : "แล้วมันเอามาฝากเอ็งใว้เหรอวะ?"

ไอ้แสบ : "มันก็ไม่ได้ฝากหรอก แค่เอามาคืนเฉยๆ  แล้วเข็ม เล่มนั้นก็งอแล้วด้วย"










จากนั้นไอ้แสบก็เล้าต่อว่า กลุ่มฮู้ดดำ ก็รับรู้ถึงคำทำนายที่เชื่อว่าเป็นฝีมือมอริซ ถูกสลักอยู่ในแกนกลางของดวงที่แตกออกมา

มันบอกถึงพิกัดและตำแหน่งของจุดที่พวกเขาต้องมา  ซึ่ง"บังเอิญ"เหลือเกินที่มันคือโรงเรียนนี้พอดี

แต่เอาเถอะถึงตอนนี้คงไม่มีคำว่าบังเอิญอะไรแล้ว...








ในขณะที่กลุ่มฮูดดำมาถึง ก็ได้มีพวกที่แข็งแกร่งจับออร่าของทั้ง2ได้(แองเกอร์ฟิชกับไอ้แสบ)


และมาที่จุดๆเดียว









เบลคที่หายหัวไปก็กลับมาเช่นกัน

[BenQ11]

จากคำบอกเล่าของไอ้แสบ วันนั้นค่อนข้างชุลมุนมาก เพราะ เบลคและแองเกอฟิชแม้ไม่รู้จักกันเพราะอยู่กันคนยุคสมัย

แต่ทั้ง2ก็มี อาจารย์คนเดียวกัน ดังนั้นวิชาต่างๆเลยคล้ายๆกัน

"อืม...มิน่าล่ะ แองเกอร์ฟิชถึงใช้อาวุธสังเคราะห์ พลังของเบลคได้...อย่างนี้นี่เอง อย่างนี้นี่เอง...."













แต่จากที่ผมเคยประมือกับทั้ง2มาแล้ว(แองเกอร์ฟิช กับไอ้แสบ จริงๆกับเบลคก็เคย)


บอกได้เลยว่า แองเกอร์ฟิชไม่ได้1ใน500000ของไอ้แสบหรอก

ผมเคยได้ยินมาว่า สมัยก่อนมีคนลือกันว่า ไอ้แสบสมัยก่อนมันเป็นปีศาจร้ายซึ่งก็ร้ายจริงๆนั่นแหล่ะอย่าให้ผมเล่าวีรกรรมสมัยก่อนมันเลยเลย

ซึ่งตอนที่ผมเจอมันนั้นเห็นว่าซอฟลงเยอะแล้วในช่วงที่มันหันหน้าหันตามาค้นคว้าเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์นั่นแหล่ะ

แต่กระนั้นมันก็ยังแสบจนผมเรียกมันว่าไอ้แสบ แต่อย่าเอามันมาเปรียบกับปัจจุบันนี้นะ ยังกะคนละคนเลยทีเดียว













ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้แองเกอร์ฟิชมั่นใจในตัวเองขนาดนั้น?

หรือเพราะว่ามีอาจารย์ดี? หรือเพราะยังมีไม้เด็ดซ่อนอยู่?

หรือเป็นนิสัยของตัวมันเอง? หรือเพราะมอริซ?

[BenQ11]

แต่เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อผมรู้ว่า อาจารย์ของ เบลคและแองเกอร์ฟิชคือใครนั้น

ผมก็ถึงกับอุทานว่า อ๋อออออ ไอ้บ้านั่นนั่นเอง

แล้ววันนั้นมันก็มาที่่โรงเรียนด้วยเห็นว่า พอได้รับข้อมูลบางอย่างมันก็รีบผละจากการประลองมาที่โรงเรียนนี้โดยทันที











ไม่แน่ใจว่าผมเคยบอกหรือยังว่า สิ่งมีชีวิต 9 ประเภท(เผ่า)ที่ไม่ควรไปยุ่ง

โดย 1ใน9ประเภทนั้น ก็คือ จอมอสูร4ธาตุ ซึ่ง1ในนั้น เป็นอาจารย์ของทั้ง2(เบลคและแองเกอร์ฟิช)

มัยชื่อ "MAZ" เป็นอสูรดิน ฉายาจักรวาลร้อยก้าว "อดีต" สหายเก่าของผมเอง....

[BenQ11]

มีดีเทลมากมาย แต่อธิบายมากกว่านี้ก็เวิ่นเว้อ(ใจจริงก็อยากเล่านะแต่มันจะยาวไป)


Mazมันบอกว่า มันได้ข้อมูลบางอย่างให้มาที่นี่ แต่ดูท่าจะไม่สมหวังเท่าใหร่นักเพราะมันไม่ได้เจอคนที่ต้องการเจอแต่ก็ยังดีที่ได้เจอลูกศิษย์ทั้ง2


















จากข้อมูลที่ได้จากไอ้แสบ Mazเป็น1ในผู้ที่ไม่ได้มางานศพ มอริซ ผิดจากอีก3ตน ที่มากัน เลยถือว่านี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆที่จู่ๆ 1ในเผ่าที่ไม่ควรยุ่งมาอยู่ตรงนี้


















ถ้าถามว่า ในจอมอสูร4ธาตุใครเก่งสุดน่ะเหรอ? ไม่รู้สิ....เพราะมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่คนทั่วไปจะไปยุ่งกับพวกมันน่ะ

ขนาดว่าเบลคยังเคยเป็นศิษย์ของMazเนี่ยก็คิดดูเอาละกัน ส่วนอีก3ตนที่เหลือนั้นก็ไม่ได้อ่อนกว่าMazเลยแม้แต่น้อย

แม้พวกนี้จะไม่ใช่ระดับเผ่าเทพหรือผู้สร้าง แต่พวกมันก็เคยรวมตัวกัน"สร้าง"โลกเหมือนกันนะ แต่เหมือนจะไม่ใช่แนวทางของพวกมันก็เลยเลิกทำไปดื่อๆเลย

กลับไปเป็น"จอมยุทธ์"ในจักรวาลแทน หมายถึงพวกพเนจรหาความสุขใส่ตัวไปเรื่อยๆน่ะ..

[BenQ11]

แต่ถ้าจะตะลึงกับเรื่องMazนั้น ยังน้อยไป เพราะ 1 ใน จอมอสูร4ธาตุอีกตนก็มาอยู่ที่นี่ด้วย

และที่สำคัญนั้นมันอยู่"ที่นี่"มาตั้งแต่ งานศพของมอริซแล้ว ด้วยสกิลความสามารถธาตุ"ลม"ของมันนี่แหล่ะ

ที่น่ากลัวที่สุด รู้จักสำนวนว่า "ธาตุอากาศ"ใหม? นั่นแหล่ะคือความสามารถของมันเลยล่ะ

ชื่อของหมอนั่นคือ "Dopalow" หรือ "ลม" ฉายา "กุหลาบหน้าศพ" อย่าถามที่มาฉายามันจากผมนะ เพราะผมไม่เคยเห็น"ลม"สู้กับใครเลย

เพราะความสามารถสกิลธาตุอากาศของมันนี่แหล่ะ ที่สามารถลงมือสังหารคู่ต่อสู้ได้ง่ายๆหรือจะถอยหนีก็ได้แบบไม่มมีใครรู้ บอกตรงๆน่ารำคาญโคตร











"ลม" อยู่ที่โรงเรียนตั้งนานแล้ว เห็นมันบอกว่าไปนั่งกินหมูสเต๊ะที่ร้านผมด้วย กับยืนดูผมเลือกซื้อดอกไม้บ่อยๆ

ซึ่งบอกเลยว่าแม้แต่ผมหรือ 2พี่น้อง แม่แต่ฮิโซกะก็ไม่รู้ นี่มันความสามารถสโต๊กเกอร์ชัดๆ

ส่วน อโลนจะรู้หรือไม่นั้น...ไม่แน่ใจ..

เพราะหลังจาก"เหตุการณ์นั้น" "ลม"ก็หายไปทันที...














...อืมเท่านั้นยังไม่พอ ยังมีตัวอันตรายอีก2ที่โผล่มาแบบ"บังเอิญ"ผ่านมาอีก2 ซึ่งผมบอกตามตรงเลยว่าผมรู้สึกดีมากๆ ที่ผมไม่ได้อยู่ในตอนนั้น


ผมแทบจะไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเลยว่า ความสามารถของ"มอริซ"นั้น จะสามารถสร้างเส้นทางให้เจ้าพวกนี้เดินมาถึงจุดที่มันต้องการได้...

[BenQ11]

1 ในเผ่าที่ไม่ควรยุ่ง Dr Tikarus ผู้เคยถูกขับไล่ไปอยู่นอกจักรวาล จู่ๆก็กลับมาได้ แถมยังพา เจ้าหญิงกาลเวลามาอีกด้วย

เห็นว่าเจอกันโดยบังเอิญในขณะหาทางกลับเข้ามา(ในจักรวาลนี้) แต่ก็ทำได้แค่มาผ่านทางอุปกรณ์สื่อสาร เพราะเจ้าหญิงไม่สามารถออกมาจากมิติที่ถูกขังได้ส่วนเหตุผลไม่ขอเล่าละกันเดี๋ยวจะยาว










จากนั้นก็มีประปราย เช่นเผ่า"เงา" อีก1เผ่าโบราณ ที่ปรกติจะไม่ยุ่งหรือสุงสิงกับใครเพราะเหลือแค่3ตัวสุดท้าย

แต่ก็นั่นแหล่ะ ทำให้ทั้ง3ยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้ อืม....มอริซ มันมีสายสัมพันธ์กับเผ่าเงาด้วยหรือนี่?











เผ่าเงาคือใคร? อืม...ผมคงไม่เคยเล่าให้ฟังสินะ ผมรู้จักเผ่าเงาโดยบังเอิญเมื่อนานมาแล้ว จริงๆเผ่าเงานี้ไม่ได้เกิดมาโดยธรรมชาติ แต่ถูกสร้างโดยฝีมือสิ่งมีชีวิต ที่ชื่อว่า"โมดู" (MODU)

แต่เดิมโมดูต้องการจะสร้างประชากรของตัวเองเพราะว่าเจ้าตัวไม่มีทายาท....แบบว่าโมดูมันชอบผู้ชายน่ะ เลยทำให้เพื่อนฝูงหนีหายมันไปหมด มันเลยสร้างเผ่าเงาขึ้นมาเพื่อแก้เหงามั้ง?

แต่ด้วยความไม่สมบูรณ์ที่เผ่าเงามีแค่ร่างสะสารละเอียด(พูดง่ายๆก็มีแต่วิญญาณนั่นแหล่ะ) จึงทำให้เผ่าเงาไม่อาจคงทนร่างตัวเองได้และต้องอยู่ภายใต้เงามืดห้ามโดดแสงแดด

[BenQ11]

ตอนผมไปเจอโมดู มันก็แก่เจียนตายแล้ว มันเลยปลดปล่อยเผ่าเงาออกจากที่ๆมันอาศัยอยู่ ให้ไปเพชิญหน้าตามยถากรรมกันเอาเอง....

นั่นแหล่ะเลยทำให้เหลือ สายพันธุ์เงา"พิเศษ" เพียง3ตัวที่อยู่รอดโลกภายนอกได้จาก 46000ตัว นั่นแหล่ะคือที่มาของพวกเผ่าเงา

น่าเสียดายๆที่ไม่ได้เจอกับพวกมันอีก....














เอ้อมีอีกกลุ่มนึงไม่พูดก็ไม่ได้ เผ่า "Natas"เผ่าเดียวกับอดีตอันดับ2สามีของแอนนั่นแหล่ะ เห็นไอ้แสบเล่าว่า "ควีน" แม่ของอดีตอันดับ2นำทัพมาเองเลย โดยเธอได้ทำการรวบรวมเหล่าขุนพนในเผ่าอื่นๆใก้ลเคียงที่เป็นพันธมิตรมาด้วย

โดยเธอบอกว่าได้รับเงินค่าจ้างก้อนโตจากมอริซ ให้มาช่วยงานนี้โดยเฉพาะ เมื่อ100ปีก่อนโดยมีเงื่อนไขอีกด้วยว่า จะให้ลูกชายของเธอได้เรียนที่นี่ฟรีๆอีกด้วย

"อืม....อย่างนี้นี่เอง...."















.....กลับมาที่ จอมอสูร4ธาตุ อีกรอบ


ไอ้แสบบอกว่า นอกจาก"ดิน"กับ"ลม" อยู่ที่โรงเรียนแล้ว "ไฟ"ก็มาด้วยนะ แต่เพราะคุณสมบัติ"ดูดดวงอาทิตย์" ทำให้มันไม่ได้เข้ามาใกล้ที่โรงเรียน

อะไรนะ?อยากรู้ฉายาของ"ไฟ"น่ะเหรอ? "ไฟศูนย์องศา" นั่นแหล่ะฉายามัน

[BenQ11]

ถ้า"ดิน"ที่มีความสามารถขยายร่างใหญ่โตแบบอัลลิมิต "ลม"มีความสามารถทำตัวเป็นธาตุอากาศไม่มีใครรู้ถึงตัวตนแล้ว

"ไฟ"นั้น ก็คง...สร้างความร้อนหรือลดความร้อนได้ดั่งใจกระมัง? อย่างเช่นสร้างความร้อนให้แก่ศัตรูจนสุกจากภายในร่างกาย หรือตัดความร้อนศัตรูให้กลายเป็นจุดเยือกแข็งในทันที

ลองนึกถึงจู่ๆดวงอาทิตย์หายวับไปในทันทีสิ อุณหภูมิ-317องศาผมเจอมากับตัวแล้ว...

แปลกดีใช่ใหมล่ะ เป็น"ไฟ" แต่กลับใช้ความเย็นได้เหอๆๆ















อาห์....มีอีกเยอะเลยแต่ถ้าจะบอกให้หมดทุกคน คงไม่ไหว...

เอาคนสุดท้ายล่ะกัน เจ้าหมอนี่ผมเคยเห็นตอนมันยังเด็ก ผมเคยเป็นเพื่อนของ "แสง" ปู่ของมัน น่าเสียดายเหมือนกันที่ไม่ได้เจอ เห็นว่าหมอนี่ตั้งแต่ขึ้นเป็นผู้นำสายเลือดแล้วก็ขยายอาณาจักรการปกครองจาก 3ดาว(หลุม)ดำในสมัยปู่

กลายเป็นคาบสมุทรเนบูล่า7ดาวเหนือ...พูดให้ชัดก็คือ 7แกแลคซี่นั่นแหล่ะ














แต่จากที่ๆมันอยู่ไกลมากเลยนะ ถ้าเดินทางกันจริงๆต้องใช้เวลา4ปีอย่างเร็วเลยทีเดียว


มันเลยเดินทางซิ่งเดี่ยวมาคนเดียว


ซึ่งจากที่ไอ้แสบบอกเห็นว่าทำผลงานได้ดีเหมือนกัน เผลอๆจะฝีมือพอๆกับ 1ใน4จอมอสูร4ธาตเลยก็ว่าได้

[BenQ11]

ว่าแล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่งบอกใว้หน่อยก็ดี

.....ผมเชื่อว่าคงต้องมีคนถามมั่งล่ะว่า "ดิน" "ลม" "ไฟ" แล้ว "น้ำ"ล่ะ?

แน่นอน ผมถามไอ้แสบถึง "น้ำ" เพราะตอนงานศพของ มอริซ "น้ำ" ก็มานะ

แต่ในมหาสงคราม มันไม่ได้มาที่นี่(โรงเรียน) นั่นเพราะ "น้ำ" ตายแล้ว....

จากคำบอกเล่าของ กลุ่ม4เทพพิทักษ์ (เห็นว่าเป็นพวกกลุ่มนักผจญภัยยุดใหม่ ที่มาจากการรวมตัวของยอดฝีมือ4คนที่รวมตัวกันท่องเที่ยวไปตามดวงดาวต่างๆ)

ซึ่งเจ้า4คนนี้อยู่ในเหตุการณ์ การปะทะของน้ำกับคู่ต่อสู้ยุคใหม่อีกคน
















จากข้อมูลที่ได้ เจ้าหมอนี่ เคยอาศัยอยู่กับชนเผ่า Natas(เผ่าเดียวกับอดีตอันดับ2) มันเลยมีสัญชาติญาณนักสู้อยู่เต็มเปี่ยม จากนั้นก็เที่ยวแสวงหาการต่อสู้ไปเรื่อยๆ

ชื่อของมันคือ "LEVEL"

"อืม...พวกยุคใหม่มีพวกแปลกๆแบบนี้เยอะขึ้นนะนี่..."
















รายละเอียดอื่นๆ หลังจากที่น้ำพ่ายแพ้แก่LEVEL และโดนสังหารลงไปนั้นเป็นเรื่องเมื่อ4ปีหลังจากที่ น้ำ มางานศพมอริซ

จากนั้น LEVELก็ร่วมเดินทางไปกับ กลุ่ม4พิทักษ์ คอยช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก....

เอาจริงดิ? ทำไมมันดูเปลี่ยนอารมณ์เร็วจังฟะ??

จริงๆประเด็นของLEVEL นั้นน่าสนใจนะแต่ผมไม่อยากให้เป็นสาระเท่าใหร่นัก เจ้านี่มันก็แค่ พวกคลั่งการต่อสู้

มันทำให้ผมนึกถึง"เบลค" ในกาลก่อน

[BenQ11]

ผมจะจำชื่อเจ้าหมอนี่ใว้ หากวันใดมีโอกาสได้เจอกับมันอะนะ....




ในขณะที่เหล่ายอดฝีมือมากระจุกรวมตัวกัน เป็นเรื่องปรกติที่มันจะมีเหตุการณ์อยาก"วัด"ฝีมือกัน

เช่นใน"สงครามแสนปี"ก็จะมีแต่พวกนี้อยู่เสมอ









ซึ่งก็ต้องขอบคุณ ฮิโซกะจริงๆ ที่เธอใช้ความสามารถในการเจรจาพูดคุย จึงผ่านสถานการณ์ สุ่มเสี่ยงมาได้ ผมู้สึกติดหนี้เธอหลายต่อหลายครั้งจริงๆ

สักวันผมจะต้องตอบแทนเธอให้ได้เลย

[BenQ11]

Narl Diary Fragment



วันที่ xx เดือนxx ปีxx



[spoiler]

ฮิโซกะได้พยายามอธิบายให้เหล่าผู้ที่มาชุมนุมนั้นเข้าใจถึงสถานการณ์ต่างๆด้วยการคาดเดา

แต่ก็ไม่ได้ยากมากนักเพราะ แต่ละคนที่มาที่นี้ล้วนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลอยู่แล้ว

มันคงเป็นไปได้ไม่ง่ายนักหรอก ที่จู่ๆผู้มีพลังสูงจะมาอยู่ที่นี่พร้อมกันมากมาย














....แต่อะไรๆมันก็ไม่ง่ายนักหรอก การที่จะมีใครที่สามารถคุมพวกมีพลังเหนือกว่าตัวเอง แถมไม่ใช่เพียง1หรือ2คนแต่มีเป็นร้อยเป็นพัน

ซึ่งจุดประสงค์แต่ละคนที่มาที่นนี่นั้นล้วนมาด้วยความ"บังเอิญ"แทบทั้งนั้น นั่นหมายถึงจุดประสงค์ในการมาที่นี่หาใช่เพื่อเตรียมรับมือกับมหาสงคราม

ดังนั้นแล้ว ผมเชื่อว่าเหตุการณ์นี้ก็คงจะเป็น"เส้นทางของมอริซ" ที่จะต้องมีใครสักคนออกมาควบคุมเหล่าผู้มีฝีมือ...















หรือว่านี่คือ การมีอยู่ของ"อโลน?"

เธอกลับมาพร้อมเบลค ซึ่งการปรากฏของเธอทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที...

เพราะธรรมชาติของพวกมีฝีมือ(โดยเฉพาะไอ้พวกที่เคยผ่านสงคร่มแสนปี)พร้อมที่จะมีเรื่องได้เสมอ..