Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
+6
YunozukaE
-=IZE=-
Kin@
helldeny
Deemo
Cheesey_Blade
10 posters
หน้า 1 จาก 1
Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
ชื่อ : Seryu เซย์ริว (มังกรโลหิต)
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : สามารถที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคู่ต่อสู้ได้เนื่องจากตัว เป็นของเหลว ( เลือด ) จึงทำให้ความสามรถเท่าเทียมกับคู่ต่อสู้ แต่จะดีกว่าตรงที่ตัวเองเป็นของเหลว มีควาเร็วเป็นอันดับ 2 รองจาก Susaku และสามารถที่จะแปรสภาพเลือดเพื่อโจมตีได้
จุดด้อยในการต่อสู้ : ไม่มี
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : เลือด (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอาเลือดของ เหล่า ซามูไรมาสร้างขึ้น (เทพประจำทิศตะวันออก ) โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
ชื่อ : Susaku สุซาคุ (นกเพลิงสีขาว)
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : ใช่ไฟวิญาณในการเผาผลาญคู่ต่อสู้ ซึ่งสามารถที่จะผลิตความร้อนสูงได้ภายในเวลาอันสั้น มีความเร็วสูงที่สุดใน สัตว์เทพประจำทิศทั้งหมด
จุดด้อยในการต่อสู้ : ความเย็นถึงขั้นแช่แข็งชั่วพริบตา
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : ไฟ (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอาดวงวิญานของเหล่า ซามูไรมาสร้างขึ้น(เทพประจำทิศเหนือ)โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
ชื่อ : Genbu เกนบุ (เต่าเกราะ)
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : ภายในตัวมีช่องว่างเหมือนคลังแสงจึงมี อาวุธมากมาย และสามารถนำเอาอาวุธจากในตัวมาใช่โจมตีได้อีกทั้ง บังคับได้อย่างมี อิสระเป็นสัตว์เทพที่ทนการโจมตี(อึด)ที่สุดในสัตว์เทพด้วยกัน
จุดด้อยในการต่อสู้ : ช้ามาก
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : ไฟ (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอา ชุดเกราะและอาวุธของเหล่าซามูไรมาสร้างขึ้น (เทพประจำทิศใต้) โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
ชื่อ : BingKo เบี๊ยกโก๊ะ (เสือกระดูก)
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : ทั่วทั้งตัวมีความคมคล้ายกับดาบ สามารถใช้หมอกช่วยในการโจมตีได้ และความสามรถในการฟื้นฟูร่างกายของตัวเองสูงมากเมื่อเทียบกับสัตว์เทพตัวอื่น
จุดด้อยในการต่อสู้ : ไม่มี
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : กระดูกและหมอก (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอา กระดูก ของเหล่าซามูไรมาสร้างขึ้น (เทพประจำทิศตะวันตก) โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
กดที่รูปเพื่อขยายภาพคร้าบ
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : สามารถที่จะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคู่ต่อสู้ได้เนื่องจากตัว เป็นของเหลว ( เลือด ) จึงทำให้ความสามรถเท่าเทียมกับคู่ต่อสู้ แต่จะดีกว่าตรงที่ตัวเองเป็นของเหลว มีควาเร็วเป็นอันดับ 2 รองจาก Susaku และสามารถที่จะแปรสภาพเลือดเพื่อโจมตีได้
จุดด้อยในการต่อสู้ : ไม่มี
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : เลือด (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอาเลือดของ เหล่า ซามูไรมาสร้างขึ้น (เทพประจำทิศตะวันออก ) โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
ชื่อ : Susaku สุซาคุ (นกเพลิงสีขาว)
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : ใช่ไฟวิญาณในการเผาผลาญคู่ต่อสู้ ซึ่งสามารถที่จะผลิตความร้อนสูงได้ภายในเวลาอันสั้น มีความเร็วสูงที่สุดใน สัตว์เทพประจำทิศทั้งหมด
จุดด้อยในการต่อสู้ : ความเย็นถึงขั้นแช่แข็งชั่วพริบตา
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : ไฟ (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอาดวงวิญานของเหล่า ซามูไรมาสร้างขึ้น(เทพประจำทิศเหนือ)โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
ชื่อ : Genbu เกนบุ (เต่าเกราะ)
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : ภายในตัวมีช่องว่างเหมือนคลังแสงจึงมี อาวุธมากมาย และสามารถนำเอาอาวุธจากในตัวมาใช่โจมตีได้อีกทั้ง บังคับได้อย่างมี อิสระเป็นสัตว์เทพที่ทนการโจมตี(อึด)ที่สุดในสัตว์เทพด้วยกัน
จุดด้อยในการต่อสู้ : ช้ามาก
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : ไฟ (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอา ชุดเกราะและอาวุธของเหล่าซามูไรมาสร้างขึ้น (เทพประจำทิศใต้) โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
ชื่อ : BingKo เบี๊ยกโก๊ะ (เสือกระดูก)
เพศ : N/A
ส่วนสูง : N/A
น้ำหนัก : N/A
อายุ : เกิน 1000 ปี
เผ่า : สัตว์เทพ
อุปนิสัย : เหมือนหุ่นยนต์ ( ทำตามหน้าที่ )
จุด เด่นในการต่อสู้ : ทั่วทั้งตัวมีความคมคล้ายกับดาบ สามารถใช้หมอกช่วยในการโจมตีได้ และความสามรถในการฟื้นฟูร่างกายของตัวเองสูงมากเมื่อเทียบกับสัตว์เทพตัวอื่น
จุดด้อยในการต่อสู้ : ไม่มี
ความสามารถ ท่าไม้ตาย : ไม่มี
สิ่งที่ชอบ : ไม่มี
สิ่งที่เกลียด : ไม่มี
อาวุธ : กระดูกและหมอก (ตัวมันเอง)
ความใฝ่ฝัน : ไม่มี
ความเกี่ยวข้องกับตัวละครอื่น : เทพประจำทิศ (ตัวอื่น และ Yamatano Orochi )
ประวัติ : เกิดจากพรของเทพีอามาเทราสึ เพื่อทำ หน้าที่ป้องกันผนึกของ โอโรจิ ซึ่งนำเอา กระดูก ของเหล่าซามูไรมาสร้างขึ้น (เทพประจำทิศตะวันตก) โดย ปกติ แล้ว จะอยู่ในหิน ผึกถ้ามีใครไปทำลายจะตื่นมาป้องกันผนึกของ โอโรจิ
กดที่รูปเพื่อขยายภาพคร้าบ
แก้ไขล่าสุดโดย Cheesey_Blade เมื่อ Sun 30 Nov 2008 - 2:26, ทั้งหมด 2 ครั้ง
Cheesey_Blade- Beginner
- birth : 21/10/1988
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
แฮปปี้ครับบบ ฝากเว็บนี้ดีกว่าง้าบบ www.photobucket.com สมัครแล้วฝากไฟร์ ก๊อบรหัสอิมเมตมาแปะเลยครับบ
ปล.อินโตรคงต้องปั่นแข่งกันแล้วมั้งนิมาหลังแต่จะเสร็จก่อน ฮาๆ
ปล.อินโตรคงต้องปั่นแข่งกันแล้วมั้งนิมาหลังแต่จะเสร็จก่อน ฮาๆ
Cheesey_Blade- Beginner
- birth : 21/10/1988
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
-*- sorry man ... ไว้วันหลังค่อยแก้กะได้ถ้าง่วงนอนแล้ว
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
..... ยังหรอกถึง พรุ่งนี้ต้องไป เจเจ ก้อ เหอะ 555+
Cheesey_Blade- Beginner
- birth : 21/10/1988
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
ว๊าวๆ รูปมาแระๆ
ได้ข่าวว่า Intro ก็จะเสร็จแล้วนิ
ได้ข่าวว่า Intro ก็จะเสร็จแล้วนิ
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
รูปมาแล้ว*-*
แนวมากค่ะ
ตอนสู้นี่ต้องสู้ทีละตัวหรือว่าต้องเจอสี่ตัวพร้อมกันคะ
ปล. ท่านเก่งมาก คินะวาดสัตว์ออกมาทีไรเพี้ยนทุกที=[]=" หมีกลายเป็นแมว อะไรเทือกนั้น...
แนวมากค่ะ
ตอนสู้นี่ต้องสู้ทีละตัวหรือว่าต้องเจอสี่ตัวพร้อมกันคะ
ปล. ท่านเก่งมาก คินะวาดสัตว์ออกมาทีไรเพี้ยนทุกที=[]=" หมีกลายเป็นแมว อะไรเทือกนั้น...
Kin@- Golden Star
- Placement : แด๊พๆ~ ด้าดี้ดาดีแด๊พๆ~
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
เท่ห์มากครับท่าน
อินโทรจะออกมาแนวไหนน้อ
น่าสนุก~~
อินโทรจะออกมาแนวไหนน้อ
น่าสนุก~~
-=IZE=-- Lucky Star
- Placement : <+:อาณาจักรกางเขนแดง:+>
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
เย็ๆ ลงแล้ว หนึงอาทิตย์ตามลูกเต๋าทำนายจิงๆด้วยแหละ
555+
555+
YunozukaE- Lucky Star
- birth : 17/11/1988
Placement : ~ตามแต่ใจจะโหยหา~ >w<
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
สามารถเลือกได้คับว่าจะสู้ทีละตัว หรือสู้ยกทีม 555+
Cheesey_Blade- Beginner
- birth : 21/10/1988
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
แม่นยำแบบนี้ คราวหน้าตอนสอบจะเอาลูกเต๋าเข้าไปด้วย
Happiiloo_alfie- Shooting Star
- birth : 18/03/1989
Placement : ดินแดนแห่งพันธสัญญา
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
เทพญี่ปุ่นออกมาครบเลย
black-rayz- Shooting Star
- birth : 15/06/1991
Placement : ข้างกองหนังสือ ในห้องสมุดแห่งมิติเ
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
black-rayz พิมพ์ว่า:เทพญี่ปุ่นออกมาครบเลย
จริงๆเกิดที่จีนเจ้าค่ะ
แต่วัฒนธรรมมันกระจายไปถึงญี่ปุ่น แล้วการ์ตูนญึ่ปุ่นพูดถึงบ่อยมากก เป็นต้นเหตุให้คนส่วนมากคิดว่ามันเกิดจากญี่ปุ่น
อ้างอิงจาก หนังสือ World Mythology ของ Holt
Happiiloo_alfie- Shooting Star
- birth : 18/03/1989
Placement : ดินแดนแห่งพันธสัญญา
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
เทพมาแล้ว สัตว์ล้วน(วาดสัตว์ไม่เป็น)
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
seiryuu
suzaku shushaku
genbu
byakko
suzaku shushaku
genbu
byakko
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
สู้ๆเพื่อน อินโทรจะเสร็จแล้ว ได้ลงไปก่อนกูอีกคน
YunozukaE- Lucky Star
- birth : 17/11/1988
Placement : ~ตามแต่ใจจะโหยหา~ >w<
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
Happiiloo_alfie พิมพ์ว่า:black-rayz พิมพ์ว่า:เทพญี่ปุ่นออกมาครบเลย
จริงๆเกิดที่จีนเจ้าค่ะ
แต่วัฒนธรรมมันกระจายไปถึงญี่ปุ่น แล้วการ์ตูนญึ่ปุ่นพูดถึงบ่อยมากก เป็นต้นเหตุให้คนส่วนมากคิดว่ามันเกิดจากญี่ปุ่น
อ้างอิงจาก หนังสือ World Mythology ของ Holt
ถ้าจากจีน
จะไม่ใช่ เซริว แต่เป็น มังกร แทนนะ
black-rayz- Shooting Star
- birth : 15/06/1991
Placement : ข้างกองหนังสือ ในห้องสมุดแห่งมิติเ
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
Cheesey_Blade พิมพ์ว่า:สามารถเลือกได้คับว่าจะสู้ทีละตัว หรือสู้ยกทีม 555+
ตัวเดียวก็ตายแล้วค่ะ =w="" (โดยเฉพาะน้องเต่า คินะวาดออกมาแล้วมันจะเหมือนเต่ามั้ยน้อ...)
ปล. แอบนึกว่ามาจากญี่ปุ่นเหมือนกัน การ์ตูนผู้หญิงชอบพูดถึงว่านางเอกย้อนยุคไปแล้วก็มีเทพสี่ทิศคอยรับใช้อะไรประมาณนี้ เพิ่งรู้ว่ามาจากจีนนะเนี่ย ความรู้ใหม่ๆ
Kin@- Golden Star
- Placement : แด๊พๆ~ ด้าดี้ดาดีแด๊พๆ~
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
black-rayz พิมพ์ว่า:Happiiloo_alfie พิมพ์ว่า:black-rayz พิมพ์ว่า:เทพญี่ปุ่นออกมาครบเลย
จริงๆเกิดที่จีนเจ้าค่ะ
แต่วัฒนธรรมมันกระจายไปถึงญี่ปุ่น แล้วการ์ตูนญึ่ปุ่นพูดถึงบ่อยมากก เป็นต้นเหตุให้คนส่วนมากคิดว่ามันเกิดจากญี่ปุ่น
อ้างอิงจาก หนังสือ World Mythology ของ Holt
ถ้าจากจีน
จะไม่ใช่ เซริว แต่เป็น มังกร แทนนะ
แปลว่าเซริวไม่ใช่มังกร?!?
อันนี้งงๆอ่ะ
อ่ะเอามาให้อ่านกันเจ้าค่ะ
นับแต่โบราณกาล ชาวจีนได้มอบน่านฟ้าทั้งสี่ทิศไว้ภายใต้การคุ้มครองของสัตว์เทพทั้งสี่ อันได้แก่ มังกรเขียว เสือขาว หงส์แดง และเต่าดำ ดังคำกล่าวที่ว่า “ซ้ายมังกรเขียว ขวาเสือขาวครอง หงส์แดงนำหน้า เต่าดำสถิตยังเบื้องหลัง” พัฒนาการของแนวคิดความเชื่อดังกล่าว มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับศาสตร์พยากรณ์และคติความเชื่อในลัทธิเต๋าของชาวจีนที่สืบทอดมานานนับพันปี
ชาวจีนโบราณแบ่งท้องฟ้าออกเป็น 4 ส่วน คือ ตะวันออก ตก เหนือและใต้ จากการสังเกตหมู่ดาวบนท้องฟ้า จับกลุ่มทิศทางการเรียงตัวของหมู่ดาวเทียบเข้ากับลักษณะของคน สัตว์หรือรูปลักษณ์ในตำนานตามความเชื่อของตน โดยให้ทิศตะวันออกแทนกลุ่มดาวมังกรเขียว (จากตำนานการปรากฏขึ้นของจักรพรรดิเหลืองทางทิศตะวันออก) ตะวันตกแทนกลุ่มดาวเสือขาว ทิศใต้แทนกลุ่มดาวหงส์แดงและทิศเหนือ แทนกลุ่มดาวเต่าดำ แต่ละทิศครองดาว 7 ดวง (รวม 28 ดวง)
ภายในสุสานยุคจั้นกั๋ว(ราว 433 ปีก่อนคริสตศักราช)แห่งหนึ่งในมณฑลหูเป่ย ได้มีการขุดพบภาพวาดของหมู่ดาว 28 ดวงกับมังกรเขียวและเสือขาวบนฝาของภาชนะเคลือบใบหนึ่ง ซึ่งบอกเราว่า การกำหนดเรียกหมู่ดาวบนท้องฟ้า ได้เกิดขึ้นก่อนหน้าเวลานี้อีกนานนัก
สัตว์เทพทั้งสี่ต่างยึดครองน่านฟ้าทั้งสี่ทิศ กลายเป็นตัวแทนของทิศทั้งสี่ จนกระทั่งการศึกษาว่าด้วยศาสตร์แห่งธาตุทั้งห้า และภูมิพยากรณ์ (ฮวงจุ้ย อินหยาง เป็นต้น) เป็นที่แพร่หลาย สัตว์เทพทั้งสี่และดวงดาวทั้ง 28 เป็นที่รู้จักในฐานะของ “เทพเจ้าผู้พิทักษ์” ตำหนักและสิ่งปลูกสร้างในวังหลวง ได้รับการประดับตกแต่งเป็นลวดลายของสัตว์เทพทั้งสี่ ส่วนประตูทางทิศเหนือของวังหลวงมักได้ชื่อว่า ประตูเสวียนอู่(เต่าดำ) เนื่องจาก หงส์แดง แทนสัญลักษณ์ของไฟ ขณะที่สถาปัตยกรรมโบราณของจีนล้วนแต่สร้างด้วยไม้ จึงมักไม่ปรากฏรูป แต่จะปรากฏในเชิงสัญลักษณ์อยู่บนกำแพง (ทาสีแดง)แทน
เมื่อถึงสมัยฉินและฮั่น สัตว์เทพทั้งสี่ก็เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในฐานะตัวแทนของฤดูกาลและสีสันทั้งสี่ ในช่วงเวลาดังกล่าว สัตว์เทพทั้งสี่ได้ปรากฏในศาสตร์วิทยาการของจีนหลากหลายสาขา อาทิ ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์ และการทหาร ดังเช่น ในตำราพิชัยสงครามบทหนึ่ง ได้กล่าวถึงการกำหนดทิศทางเดินทัพไว้ว่า “การเคลื่อนทัพนั้น ซ้ายเป็นมังกรเขียว ขวาเสือขาว ทัพหน้าคือหงส์แดงและเต่าดำคุมหลัง บัญชาการจากเบื้องบน นำปฏิบัติสู่เบื้องล่าง” เนื่องจากผู้คนในสมัยนั้นต่างคุ้นเคยกับตำแหน่งของสัตว์เทพทั้งสี่เป็นอย่างดี ภายหลังจึงได้รับการประยุกต์ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของธงนำทัพไป
ต่อเมื่อศาสนาเต๋ารุ่งเรืองขึ้น มังกรเขียว เสือขาว หงส์แดงและเต่าดำในฐานะเทพเจ้าผู้คุ้มครองมนุษย์ ต่างมีความสำคัญขึ้น ถูกยกให้มีความเป็นมนุษย์ยิ่งขึ้น ต่างมีชื่อเรียกเป็นมนุษย์ และต่อมาอีกไม่นาน เทพเสวียนอู่หรือเต่าดำ ก็โดดเด่นขึ้นในฐานะของ “เจินอู่” ปรมาจารย์เต๋าผู้สำเร็จมรรคผล ส่วนหงส์แดงเป็นเทพที่มีบทบาทแยกออกมาเป็นเอกเทศ ขณะที่มังกรเขียวและเสือขาวกลายเป็นเทพทวารบาลผู้รักษาประตูทางเข้าสู่มรรคาแห่งเต๋า
มังกรเขียว (ชิงหลง ในภาษาจีน เซริว ในภาษาญี่ปุ่น หรือ ชุง รวอง ในภาษาเกาหลี) ประจำทิศตะวันออก สีเขียว ธาตุไม้ ฤดูใบไม้ผลิ
ชาวจีนโบราณ ถือว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจกษัตริย์ และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่ง นับตั้งแต่ยุคของจักรพรรดิเหลืองเป็นต้นมา มังกรก็กลายเป็นตัวแทนของผู้มีเชื้อสายจีนทั้งมวล โดยเฉพาะเมื่อถึงสมัยราชวงศ์ฮั่น ปรากฏภาพวาดและตำนานเกี่ยวกับหวงตี้หรือจักรพรรดิเหลืองที่ทรงมังกรเป็นพาหนะเหินบินสู่ฟ้า มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของจักรพรรดิผู้ยิ่งยงอีกด้วย
ตำนานกล่าวว่า มังกรเขียว มีลำตัวเป็นงู หัวเป็นกิเลน หางเป็นปลา มีเครายาว มีเขา เท้าคล้ายกรงเล็บ รูปลักษณ์เป็นมังกรเหิน เปี่ยมด้วยพลังอำนาจ เนื่องจากประจำทิศตะวันออก ธาตุไม้ มีสีเขียว จึงเป็นมังกรเขียว
เสือขาว(ไป๋หู่ ในภาษาจีน เบียคโกะ ในภาษาญี่ปุ่น หรือ แบค โฮ ในภาษาเกาหลี)ประจำทิศตะวันตก สีขาว ธาตุทอง ฤดูใบไม้ร่วง
เสือ เป็นเจ้าแห่งสัตว์ป่าทั้งมวล เนื่องจากประจำทิศตะวันตก ธาตุทอง มีสีขาว จึงกลายเป็น เสือขาว เป็นตัวแทนของอำนาจบารมี ความเคารพยำเกรงและการทหาร เนื่องจากเสือเป็นนักล่า กินเนื้อ ดังนั้น จึงมีภาพลักษณ์เป็นเทพเจ้าแห่งศึกสงครามและการล่าสังหารอีกด้วย สถานที่หรือชัยภูมิในสมัยโบราณหากมีชื่อของเสือขาว จึงมักมีนัยสำคัญทางทหาร นอกจากนี้ ยังใช้ในการตั้งชื่อหน่วยกำลังรบ และใช้เป็นตราสัญลักษณ์ในการบัญชาการเคลื่อนทัพ หรือสลักเป็นลวดลายคู่กับมังกรเขียวบนบานประตูทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย
Happiiloo_alfie- Shooting Star
- birth : 18/03/1989
Placement : ดินแดนแห่งพันธสัญญา
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
หงส์แดง(จูเชว่ ใน ภาษาจีน ซูซาคุ ในภาษาญี่ปุ่น หรือ จู จัก ในภาษาเกาหลี) ทิศใต้ สีแดง ธาตุไฟ ฤดูร้อน
หงส์ เป็นเจ้าแห่งปักษา และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ มีรูปลักษณ์เดิมมาจากนกหลากหลายชนิด อาทิ ไก่ฟ้า ห่านฟ้า นกกระจอก เหยี่ยวนกกระจอก นกนางแอ่นฯลฯ ในตำนานกล่าวว่า หงส์มีรูปคล้ายไก่ฟ้า มีสีขนสลับลายเป็นประกาย มีนิสัยรักสะอาด ช่างเลือก (มีความละเอียดอ่อนประณีต) เนื่องจากรูปลักษณ์เป็นนก ประจำทิศใต้ ธาตุไฟ สีแดง จึงได้ชื่อว่า หงส์แดง
ภายหลังได้รับอิทธิพลจากความเชื่อลัทธิเต๋า จากสัตว์เทพค่อยวิวัฒนาการเป็นรูปลักษณ์ของครึ่งคนครึ่งสัตว์ จากนั้นกลายเป็นเทพที่มีรูปเป็นหญิง
เต่าดำ(เสวียนอู่ ในภาษาจีน เกนบุ ในภาษาญี่ปุ่น หรือ ฮยุน มู ในภาษาเกาหลี)ประจำทิศเหนือ สีดำ ธาตุน้ำ ฤดูหนาว
เต่าดำหรือเสวียนอู่ มีรูปลักษณ์เป็นเต่า แต่มีเกล็ดคล้ายงู มีลักษณะร่วมกันของเต่าและงู บ้างใช้สัญลักษณ์เป็นรูปเต่าที่มีงูพันรัดกลางลำตัว แต่เดิมมาจากการใช้กระดองเต่าในการทำนายทายทัก ซึ่งหมายถึงการให้เต่านำคำถามลงไปสู่โลกแห่งวิญญาณเพื่อนำคำตอบกลับมายังโลกมนุษย์ อีกทั้งกระดองเต่ามีสีดำ จึงปรากฏในรูปเต่าดำ ภายหลังได้มีการขยายความออกไป โดยเห็นว่าเต่าอาศัยอยู่กับน้ำ ทั้งแม่น้ำลำคลองน้อยใหญ่จนถึงท้องทะเลกว้าง จึงได้รับการขนานนามให้เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ อีกทั้ง เต่ามีอายุยืนนาน จึงเป็นสัญลักษณ์แทนการมีอายุวัฒนะ
ภายหลัง เทพเสวียนอู่ได้รับการ “ยกฐานะ” จากลัทธิเต๋า ให้เป็นปรมาจารย์เจินอู่ โดยกล่าวกันว่า เจินอู่เป็นภาคหนึ่งของเง็กเซียนฮ่องเต้มาจุติยังโลกมนุษย์ แต่ด้วยความเบื่อหน่ายในโลกีย์ จึงเก็บตัวบำเพ็ญภาวนาบนเขาบู๊ตึ๊งจนสำเร็จมรรคผลเป็นเซียน ขึ้นสถิตบนฟ้า ครองตำแหน่งทิศเหนือ
หงส์ เป็นเจ้าแห่งปักษา และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ มีรูปลักษณ์เดิมมาจากนกหลากหลายชนิด อาทิ ไก่ฟ้า ห่านฟ้า นกกระจอก เหยี่ยวนกกระจอก นกนางแอ่นฯลฯ ในตำนานกล่าวว่า หงส์มีรูปคล้ายไก่ฟ้า มีสีขนสลับลายเป็นประกาย มีนิสัยรักสะอาด ช่างเลือก (มีความละเอียดอ่อนประณีต) เนื่องจากรูปลักษณ์เป็นนก ประจำทิศใต้ ธาตุไฟ สีแดง จึงได้ชื่อว่า หงส์แดง
ภายหลังได้รับอิทธิพลจากความเชื่อลัทธิเต๋า จากสัตว์เทพค่อยวิวัฒนาการเป็นรูปลักษณ์ของครึ่งคนครึ่งสัตว์ จากนั้นกลายเป็นเทพที่มีรูปเป็นหญิง
เต่าดำ(เสวียนอู่ ในภาษาจีน เกนบุ ในภาษาญี่ปุ่น หรือ ฮยุน มู ในภาษาเกาหลี)ประจำทิศเหนือ สีดำ ธาตุน้ำ ฤดูหนาว
เต่าดำหรือเสวียนอู่ มีรูปลักษณ์เป็นเต่า แต่มีเกล็ดคล้ายงู มีลักษณะร่วมกันของเต่าและงู บ้างใช้สัญลักษณ์เป็นรูปเต่าที่มีงูพันรัดกลางลำตัว แต่เดิมมาจากการใช้กระดองเต่าในการทำนายทายทัก ซึ่งหมายถึงการให้เต่านำคำถามลงไปสู่โลกแห่งวิญญาณเพื่อนำคำตอบกลับมายังโลกมนุษย์ อีกทั้งกระดองเต่ามีสีดำ จึงปรากฏในรูปเต่าดำ ภายหลังได้มีการขยายความออกไป โดยเห็นว่าเต่าอาศัยอยู่กับน้ำ ทั้งแม่น้ำลำคลองน้อยใหญ่จนถึงท้องทะเลกว้าง จึงได้รับการขนานนามให้เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ อีกทั้ง เต่ามีอายุยืนนาน จึงเป็นสัญลักษณ์แทนการมีอายุวัฒนะ
ภายหลัง เทพเสวียนอู่ได้รับการ “ยกฐานะ” จากลัทธิเต๋า ให้เป็นปรมาจารย์เจินอู่ โดยกล่าวกันว่า เจินอู่เป็นภาคหนึ่งของเง็กเซียนฮ่องเต้มาจุติยังโลกมนุษย์ แต่ด้วยความเบื่อหน่ายในโลกีย์ จึงเก็บตัวบำเพ็ญภาวนาบนเขาบู๊ตึ๊งจนสำเร็จมรรคผลเป็นเซียน ขึ้นสถิตบนฟ้า ครองตำแหน่งทิศเหนือ
Happiiloo_alfie- Shooting Star
- birth : 18/03/1989
Placement : ดินแดนแห่งพันธสัญญา
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ใช้เพื่อเปรียบเทียบกับการอ้างอิง 433 ปีก่อนคริสศักราช ที่จีนขุดพบหลักฐานเกี่ยวกับสัตว์เทพทั้งสี่ตน
...สมัยโบราณ จากการค้นคว้าทางโบราณคดีพบว่ามีผู้อาศัยอยู่บนหมู่เกาะญี่ปุ่นกว่า 100,000 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ครั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของผืนแผ่นดินทวีปเอเชีย คนโบราณที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะญี่ปุ่นในยุคหินเก่า (Paleolithic) หาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ และเก็บของป่า ในยุคหินใหม่ (Neolithic) เมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้วก็ได้มีการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินด้วยความประณีต มีการพัฒนาวิธีการล่าสัตว์โดยใช้คันธนูและลูกธนู ตลอดจนมีการผลิตภาชนะเครื่องปั้นดินเผาใส่อาหารและเก็บรักษาอาหาร ยุคประมาณ 8,000 ปี ถึง 300 ปี ก่อนคริสตศักราชเรียกว่า สมัยโจมน ตามรูปแบบเครื่องปั้นดินเผาโจมนที่มีลวดลายเป็นเชือก
....ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตศักราช ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะญี่ปุ่นได้เริ่มเรียนรู้การทำการเกษตร ได้แก่ การปลูกข้าวเป็นอันดับแรกและวิธีการทำเครื่องใช้โลหะจากทวีปเอเชีย ชาวญี่ปุ่นใช้เครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยเหล็กที่ใช้ในการเพาะปลูกในชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และใช้ดาบที่ทำด้วยทองแดงและกระจกในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา การจัดแบ่งงานทำให้ช่องว่างระหว่างผู้ปกครองดินแดนและผู้อยู่ใต้การปกครองกว้างขึ้น ในช่วงนี้รัฐเล็กๆ จำนวนมากได้ก่อตัวขึ้นทั่วประเทศ ยุคสมัยระหว่าง 300 ปีก่อนคริสตศักราชจนถึง ค.ศ.300 เรียกว่า สมัยยาโยอิ ตามเครื่องปั้นดินเผาที่ใช้แกนหมุนในการขึ้นรูปที่ผลิตกันในช่วงเวลานั้น
รัฐเล็กๆ เหล่านั้นค่อยๆ รวมตัวกัน และในศตวรรษที่ 4 กลุ่มผู้มีความเข้มแข็งทางการเมืองซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ ยามาโตะ (ปัจจุบันคือจังหวัดนารา) ได้มีอำนาจปกครองประเทศตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 จนถึงศตวรรษที่ 6 มีการพัฒนาทางด้านเกษตรกรรมขนานใหญ่ และวัฒนธรรมจีนรวมทั้งลัทธิขงจื๊อและศาสนาพุทธได้เผยแพร่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นผ่านทางเกาหลี ถึงปลายศตวรรษที่ 4 ได้มีการติดต่อระหว่างญี่ปุ่นกับอาณาจักรบนคาบสมุทรเกาหลี ศิลป อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การทอผ้า งานโลหะ การฟอกหนัง และการต่อเรือ ซึ่งแต่แรกเริ่มมีการพัฒนาในประเทศจีนภายใต้ราชวงศ์ฮั่นได้เริ่มเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านทางเกาหลี
ญี่ปุ่นได้รับเอาตัวอักษรแบบจีนซึ่งมีรากฐานมาจากอักษรภาพมาใช้ และโดยผ่านทางสื่อตัวอักษรนี้เอง ชาวญี่ปุ่นได้เรียนความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์ การใช้ปฏิทินและดาราศาสตร์ ตลอดจนปรัชญาของลัทธิขงจื๊อ ศาสนาพุทธได้เข้ามาในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.538 จากประเทศอินเดียโดยผ่านทางจีนและเกาหลี ผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่นได้ถือระบบการปกครองของจีนเป็นแนวทางในการสร้างระบบการปกครองของตน
เมืองหลวงถาวรแห่งแรก ของญี่ปุ่นได้รับการสถาปนาขึ้นที่ เมืองนารา ในตอนต้นศตวรรษที่ 8 เป็นเวลานานกว่า 70 ปี คือตั้งแต่ ค.ศ.710 ถึง ค.ศ.784 พระราชวงศ์อิมพีเรียลของญี่ปุ่นประทับอยู่ที่เมืองนาราโดยตลอดและขยายอำนาจไปทั่วประเทศทีละน้อย ก่อนหน้านั้นได้มีการย้ายเมืองหลวงซึ่งเป็นที่ประทับบ่อยครั้งภายในเขตแดนที่ในปัจจุบันคือเมืองนารา เกียวโต และโอซากา
เมืองหลวงใหม่ซึ่งเลียนแบบเมืองหลวงของประเทศจีนในสมัยนั้น ได้รับการสถาปนาที่เมืองเกียวโตเมื่อปี ค.ศ.794 และได้เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์เป็นเวลานานเกือบ 1,000 ปี การย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองเกียวโต นับเป็นจุดเริ่มต้นของ สมัยเฮอัน ซึ่งดำรงอยู่ต่อมาจนถึง ค.ศ.1192 และเป็นสมัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสมัยหนึ่งของการพัฒนาทางด้านศิลปะในประเทศญี่ปุ่น การติดต่อกับประเทศจีนหยุดชะงักลงในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 และอารยธรรมญี่ปุ่นเริ่มที่จะมีลักษณะและรูปแบบเป็นของตนเอง
สิ่งเหล่านี้นับเป็นกระบวนการของการผสมกลมกลืนและการปรับเปลี่ยน โดยที่สิ่งต่างๆ ซึ่งญี่ปุ่นรับมาจากภายนอกค่อยๆ กลายเป็นรูปแบบของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย ตัวอย่างที่เห็นได้โดยทั่วไปของกระบวนการนี้ คือการพัฒนาของตัวอักษรญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน ความซับซ้อนของการเขียนของจีนทำให้นักเขียนและพระคิดค้นรูปพยางค์ขึ้นสองระบบโดยยึดรูปแบบอย่างของจีน ภายในกลางสมัยเฮอัน ได้มีการปรับปรุงพยัญชนะที่เรียกกันว่า คานะ (kana) และนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง นับเป็นการเปิดทางให้แก่งานเขียนที่มีรูปแบบเป็นของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายแทนถ้อยคำสำนวนที่ยืมมาจากภาษาจีน
ชีวิตในเมืองหลวงเป็นชีวิตที่หรูหราและสะดวกสบาย ขณะที่ราชสำนักใช้เวลาทั้งหมดไปกับศิลปะและความสุขทางสังคม อำนาจที่เคยมีเหนือกลุ่มที่มีอิทธิพลทางการทหารในหัวเมืองต่างๆ ก็เริ่มจะคลอนแคลน อำนาจในการควบคุมอาณาจักรอย่างมีประสิทธิภาพได้หลุดมือไป และได้กลายเป็นสิ่งล่อใจสำหรับ สองตระกูลทหารที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน ได้แก่ ตระกูล มินะโมะโตะและไทระ ซึ่งเป็นตระกูลที่สืบทอดเชื้อสายมาจากจักรพรรดิองค์ก่อนๆ ทั้งสองตระกูล ตระกูลมินะโมะโตะและไทระได้ต่อสู้ในการรบที่โด่งดังที่สุด และมีความรุนแรงมากในยุคกลางอันวุ่นวายสับสนของญี่ปุ่น ในที่สุดตระกูลมินะโมะโตะเป็นฝ่ายชนะสงคราม โดยได้ทำลายล้างตระกูลไทระ จนพินาศในศึกดันโนอุระ (Battle of Dannoura) อันเกริกก้องและเลื่องลือ ในการรบกันที่ทะเลอินแลนด์ใน ค.ศ.1185
...สมัยโบราณ จากการค้นคว้าทางโบราณคดีพบว่ามีผู้อาศัยอยู่บนหมู่เกาะญี่ปุ่นกว่า 100,000 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ครั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของผืนแผ่นดินทวีปเอเชีย คนโบราณที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะญี่ปุ่นในยุคหินเก่า (Paleolithic) หาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ และเก็บของป่า ในยุคหินใหม่ (Neolithic) เมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้วก็ได้มีการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินด้วยความประณีต มีการพัฒนาวิธีการล่าสัตว์โดยใช้คันธนูและลูกธนู ตลอดจนมีการผลิตภาชนะเครื่องปั้นดินเผาใส่อาหารและเก็บรักษาอาหาร ยุคประมาณ 8,000 ปี ถึง 300 ปี ก่อนคริสตศักราชเรียกว่า สมัยโจมน ตามรูปแบบเครื่องปั้นดินเผาโจมนที่มีลวดลายเป็นเชือก
....ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตศักราช ผู้คนที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะญี่ปุ่นได้เริ่มเรียนรู้การทำการเกษตร ได้แก่ การปลูกข้าวเป็นอันดับแรกและวิธีการทำเครื่องใช้โลหะจากทวีปเอเชีย ชาวญี่ปุ่นใช้เครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยเหล็กที่ใช้ในการเพาะปลูกในชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร และใช้ดาบที่ทำด้วยทองแดงและกระจกในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา การจัดแบ่งงานทำให้ช่องว่างระหว่างผู้ปกครองดินแดนและผู้อยู่ใต้การปกครองกว้างขึ้น ในช่วงนี้รัฐเล็กๆ จำนวนมากได้ก่อตัวขึ้นทั่วประเทศ ยุคสมัยระหว่าง 300 ปีก่อนคริสตศักราชจนถึง ค.ศ.300 เรียกว่า สมัยยาโยอิ ตามเครื่องปั้นดินเผาที่ใช้แกนหมุนในการขึ้นรูปที่ผลิตกันในช่วงเวลานั้น
รัฐเล็กๆ เหล่านั้นค่อยๆ รวมตัวกัน และในศตวรรษที่ 4 กลุ่มผู้มีความเข้มแข็งทางการเมืองซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ ยามาโตะ (ปัจจุบันคือจังหวัดนารา) ได้มีอำนาจปกครองประเทศตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 จนถึงศตวรรษที่ 6 มีการพัฒนาทางด้านเกษตรกรรมขนานใหญ่ และวัฒนธรรมจีนรวมทั้งลัทธิขงจื๊อและศาสนาพุทธได้เผยแพร่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นผ่านทางเกาหลี ถึงปลายศตวรรษที่ 4 ได้มีการติดต่อระหว่างญี่ปุ่นกับอาณาจักรบนคาบสมุทรเกาหลี ศิลป อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การทอผ้า งานโลหะ การฟอกหนัง และการต่อเรือ ซึ่งแต่แรกเริ่มมีการพัฒนาในประเทศจีนภายใต้ราชวงศ์ฮั่นได้เริ่มเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นโดยผ่านทางเกาหลี
ญี่ปุ่นได้รับเอาตัวอักษรแบบจีนซึ่งมีรากฐานมาจากอักษรภาพมาใช้ และโดยผ่านทางสื่อตัวอักษรนี้เอง ชาวญี่ปุ่นได้เรียนความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์ การใช้ปฏิทินและดาราศาสตร์ ตลอดจนปรัชญาของลัทธิขงจื๊อ ศาสนาพุทธได้เข้ามาในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.538 จากประเทศอินเดียโดยผ่านทางจีนและเกาหลี ผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่นได้ถือระบบการปกครองของจีนเป็นแนวทางในการสร้างระบบการปกครองของตน
เมืองหลวงถาวรแห่งแรก ของญี่ปุ่นได้รับการสถาปนาขึ้นที่ เมืองนารา ในตอนต้นศตวรรษที่ 8 เป็นเวลานานกว่า 70 ปี คือตั้งแต่ ค.ศ.710 ถึง ค.ศ.784 พระราชวงศ์อิมพีเรียลของญี่ปุ่นประทับอยู่ที่เมืองนาราโดยตลอดและขยายอำนาจไปทั่วประเทศทีละน้อย ก่อนหน้านั้นได้มีการย้ายเมืองหลวงซึ่งเป็นที่ประทับบ่อยครั้งภายในเขตแดนที่ในปัจจุบันคือเมืองนารา เกียวโต และโอซากา
เมืองหลวงใหม่ซึ่งเลียนแบบเมืองหลวงของประเทศจีนในสมัยนั้น ได้รับการสถาปนาที่เมืองเกียวโตเมื่อปี ค.ศ.794 และได้เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์เป็นเวลานานเกือบ 1,000 ปี การย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองเกียวโต นับเป็นจุดเริ่มต้นของ สมัยเฮอัน ซึ่งดำรงอยู่ต่อมาจนถึง ค.ศ.1192 และเป็นสมัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสมัยหนึ่งของการพัฒนาทางด้านศิลปะในประเทศญี่ปุ่น การติดต่อกับประเทศจีนหยุดชะงักลงในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 และอารยธรรมญี่ปุ่นเริ่มที่จะมีลักษณะและรูปแบบเป็นของตนเอง
สิ่งเหล่านี้นับเป็นกระบวนการของการผสมกลมกลืนและการปรับเปลี่ยน โดยที่สิ่งต่างๆ ซึ่งญี่ปุ่นรับมาจากภายนอกค่อยๆ กลายเป็นรูปแบบของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย ตัวอย่างที่เห็นได้โดยทั่วไปของกระบวนการนี้ คือการพัฒนาของตัวอักษรญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน ความซับซ้อนของการเขียนของจีนทำให้นักเขียนและพระคิดค้นรูปพยางค์ขึ้นสองระบบโดยยึดรูปแบบอย่างของจีน ภายในกลางสมัยเฮอัน ได้มีการปรับปรุงพยัญชนะที่เรียกกันว่า คานะ (kana) และนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง นับเป็นการเปิดทางให้แก่งานเขียนที่มีรูปแบบเป็นของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายแทนถ้อยคำสำนวนที่ยืมมาจากภาษาจีน
ชีวิตในเมืองหลวงเป็นชีวิตที่หรูหราและสะดวกสบาย ขณะที่ราชสำนักใช้เวลาทั้งหมดไปกับศิลปะและความสุขทางสังคม อำนาจที่เคยมีเหนือกลุ่มที่มีอิทธิพลทางการทหารในหัวเมืองต่างๆ ก็เริ่มจะคลอนแคลน อำนาจในการควบคุมอาณาจักรอย่างมีประสิทธิภาพได้หลุดมือไป และได้กลายเป็นสิ่งล่อใจสำหรับ สองตระกูลทหารที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน ได้แก่ ตระกูล มินะโมะโตะและไทระ ซึ่งเป็นตระกูลที่สืบทอดเชื้อสายมาจากจักรพรรดิองค์ก่อนๆ ทั้งสองตระกูล ตระกูลมินะโมะโตะและไทระได้ต่อสู้ในการรบที่โด่งดังที่สุด และมีความรุนแรงมากในยุคกลางอันวุ่นวายสับสนของญี่ปุ่น ในที่สุดตระกูลมินะโมะโตะเป็นฝ่ายชนะสงคราม โดยได้ทำลายล้างตระกูลไทระ จนพินาศในศึกดันโนอุระ (Battle of Dannoura) อันเกริกก้องและเลื่องลือ ในการรบกันที่ทะเลอินแลนด์ใน ค.ศ.1185
Happiiloo_alfie- Shooting Star
- birth : 18/03/1989
Placement : ดินแดนแห่งพันธสัญญา
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
ถ้าซักวันทำรายงานเรื่องตำนานอะไรซักอย่าง ผมว่าผมจะมาถามพวกแอลฟี่ดูนะ
Re: Character สัตว์เทพประจำทิศ [ Relate with Yamatano Orochi] [ข้อมูลและรูป]
โอย ขี้เกียจอ่านอ่า ว่าแต่ก็เล่าฟังแล้วนี่หว่า
YunozukaE- Lucky Star
- birth : 17/11/1988
Placement : ~ตามแต่ใจจะโหยหา~ >w<
Similar topics
» Character Yamatano Orochi [มีรูปไม่มีอินโทร]
» [Character][Character CFSn] Nanashi >>>Intro 100%
» [Character] ไลท์ or MR.PSYCHO!! [เปลี่ยนรูป CHARACTER กั๊บ!]
» [Character CF2] รอบที่ 4 ฝาแฝด R&RR
» [Character CF3] Lin (หลิน) น้องสาวของใครบางคน - -+
» [Character][Character CFSn] Nanashi >>>Intro 100%
» [Character] ไลท์ or MR.PSYCHO!! [เปลี่ยนรูป CHARACTER กั๊บ!]
» [Character CF2] รอบที่ 4 ฝาแฝด R&RR
» [Character CF3] Lin (หลิน) น้องสาวของใครบางคน - -+
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|