=A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
+10
Smilo
WanTaLeng
TRipLE
trio-jam
ivalrina
prim_15505
finel
By~ne
totaekuman
peterpan-killer
14 posters
หน้า 1 จาก 1
=A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ที่มาจาก
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8322062/A8322062.html
โอสแม่จ้าว ในที่สุดญี่ปุ่นก็ซื้อของไทยไปจนได้
ความจริงก็เห็นมานานแล้วครับ แต่ก็อยากรู้คามคิดเห็นทุกคนเป็นไงบ้างเท่านั้นเอง
โดยส่วนตัวผมกลับมีทั้ง ดีใจปนเสียใจ เหมือนกันเลยพูดไม่ถูก
ในฐานะคนไทย- เย้หนังชาติเราโกอินเตอร์แล้ว กิ้วๆ
ในฐานะคนเขียนการ์ตูน - เหมือนโดนแย่งอู่ข้าวอู่น้ำไปยังไงยังงั้น
อารมณ์ตอนนี้เหมือนนักเขียนไทยเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ทุนน้อย ที่ถูกบิ้กซีมาตั้งข้างๆ ยังไงยังงั้นแหละ
แต่ในความเห็นเพื่อนๆล่ะครับคิดว่าไงอะครับ อยากรู้จัง
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8322062/A8322062.html
โอสแม่จ้าว ในที่สุดญี่ปุ่นก็ซื้อของไทยไปจนได้
ความจริงก็เห็นมานานแล้วครับ แต่ก็อยากรู้คามคิดเห็นทุกคนเป็นไงบ้างเท่านั้นเอง
โดยส่วนตัวผมกลับมีทั้ง ดีใจปนเสียใจ เหมือนกันเลยพูดไม่ถูก
ในฐานะคนไทย- เย้หนังชาติเราโกอินเตอร์แล้ว กิ้วๆ
ในฐานะคนเขียนการ์ตูน - เหมือนโดนแย่งอู่ข้าวอู่น้ำไปยังไงยังงั้น
อารมณ์ตอนนี้เหมือนนักเขียนไทยเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ทุนน้อย ที่ถูกบิ้กซีมาตั้งข้างๆ ยังไงยังงั้นแหละ
แต่ในความเห็นเพื่อนๆล่ะครับคิดว่าไงอะครับ อยากรู้จัง
peterpan-killer- Silver Star
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ถ้าจะเอาจริงๆผมว่า นักเขียนไทยก็ไม่ใช่กระจอกๆนะอารมณ์ตอนนี้เหมือนนักเขียนไทยเป็นร้านขายของชำเล็กๆ ทุนน้อย
ที่ถูกบิ้กซีมาตั้งข้างๆ ยังไงยังงั้นแหละแต่ในความเห็นเพื่อนๆล่ะครับคิดว่าไงอะครับอยากรู้จัง
ความรู้สึกนี้บอกยากเหมื่อนกันฮะ ส่วนตัวก็ทั้งดีใจให้วงการหนังไทยด้วยที่โกอินเตอร์
ถ้ากลับมาดูวงการการ์ตูนความจริงไทยน่าจะได้วาดก่อนนะ แอบเสียดายแทนนิดๆครับ
totaekuman- WARNING
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
โอ้สุดยอด...ได้เป็นการ์ตูนแว้ว
แต่นักเขียนไทยผมก็ว่าคนที่มีฝีมือมากความสามารถนี่มีไม่น้อยเลยนะฮะ
แต่คิดว่าติดตรงที่ไม่มีผู้สนับสนุนอย่างจริงจังมากเท่าไหร่น่ะครับ
แต่นักเขียนไทยผมก็ว่าคนที่มีฝีมือมากความสามารถนี่มีไม่น้อยเลยนะฮะ
แต่คิดว่าติดตรงที่ไม่มีผู้สนับสนุนอย่างจริงจังมากเท่าไหร่น่ะครับ
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
มันก็มีอ่ะนะของไทยแต่.......มัน...มันคือการ์ตูน x-mens
ตอนท้ายนางเอกตบกับมนุษย์ต่างดาว
อ่านแล้ว.....อย่างแรง มันไม่ใช่ มันไม่ช่ายยยยยยยยยยยยยยยยกิ๊ฟฟฟฟฟ
ยิ่งดูหนังแล้ว Orz
finel- Lucky Star
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ถ้ามีคนหนับหนุนออกค่าจ้างผู้ช่วย ผมว่างานคงคุณภาพดีกว่านี้เยอะเลยอะครับ
หน้าละ200บาท มันจะสู้ 200000เยนได้ไงเนอะ
นักเขียนไทยที่เขียนงานเดี่ยวๆคุณภาพเท่าญี่ปุ่นก็มีเยอะครับ แต่ทำจริงๆเขาจะเหนื่อยมากทีเดียวถ้าไม่มีแรงผลักดันหรือเป็นทีม เลยผันตัวไปสายอิลาสมากกว่าเพราะมันคุ้มและพอสู้ไหว ก็เป็นเรื่องเศร้าของบ้านเราไป ฮ่าๆ
หน้าละ200บาท มันจะสู้ 200000เยนได้ไงเนอะ
นักเขียนไทยที่เขียนงานเดี่ยวๆคุณภาพเท่าญี่ปุ่นก็มีเยอะครับ แต่ทำจริงๆเขาจะเหนื่อยมากทีเดียวถ้าไม่มีแรงผลักดันหรือเป็นทีม เลยผันตัวไปสายอิลาสมากกว่าเพราะมันคุ้มและพอสู้ไหว ก็เป็นเรื่องเศร้าของบ้านเราไป ฮ่าๆ
peterpan-killer- Silver Star
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ว้าววววว...สุดยอดอ่ะ
เนื้อเรื่องเขาเอาตามไทยเลยนิ(อ่านดูแล้วอ่ะนะ)
เนื้อเรื่องเขาเอาตามไทยเลยนิ(อ่านดูแล้วอ่ะนะ)
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
เล่มนี้ก็หนุกดีนะ ถ้าอ่านเอาแค่ในเล่ม ไม่ไปคิดตามหนัง
ivalrina- Lucky Star
- birth : 14/03/1988
Placement : มุมลึกลับที่มองเห็นสาวแว่น
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ยุ่นเอางานเราไปเขียนแล้วทั้งชมทั้งแค้นกัน
แต่ถ้าเราเอางานยุ่นมาเขียนนี่สิ จะโดนว่าเอา(ด้วยเรื่องเดิมๆ เฮ่อ...)
แต่ถ้าเราเอางานยุ่นมาเขียนนี่สิ จะโดนว่าเอา(ด้วยเรื่องเดิมๆ เฮ่อ...)
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
คอมเมนต์แบบดูแต่ปกนะ เทียบกับของ VBK ที่มีคนมาแปะปก ผมว่าของญี่ปุ่นมันวาดคาแรคเตอร์บรรยากาศคล้ายคลึงต้นแบบมากกว่า + หน้าปกภาพสีออกแบบได้ดูน่าอ่านกว่าด้วย
ต่อให้ทั้งสองเล่มเป็นของคนไทยวาดทั้งคู่ ผมก็ไม่เลือกอ่านของ VBK ครับ
ต่อให้วาดสวยกว่านี้สัก 100 เท่า แต่คาแรคเตอร์บนปกมันไม่ค่อยน่าอ่านเท่าไหร่เลย
ไม่ค่อยรู้สึกอะไรครับ เพราะคิดว่าถ้าเทียบกับโปรเจ็คต์การ์ตูนจากหนังของ cts ระดับความน่าสนใจก็พอๆ กันน่ะแหละ
คนญี่ปุ่นเขาท่าทางชอบหนังบู๊แอ็คชั่นทำนองนี้อยู่แล้ว แบบไม่ใช่ตัวแสดงแทนเนี่ย เคยอ่านพวก 1/4 ในการ์ตูนบางเรื่อง คนเขียนมีพูดถึงจา พนม ประมาณว่าดูหนังแล้วปลื้มมากด้วย เพราะงั้นมาเห็นคนญี่ปุ่นเอาเรื่องนี้ไปเขียนเลยคิดว่าไม่น่าแปลกใจครับ
แถมทางโน้นค่าครองชีพสูงลิบลิ่ว แค่บะหมี่ยืนกินยังตกชามละสองสามร้อยบาท ไม่ใช่ข้าวแกงจานละ 25 น้ำเปล่าฟรี เหมือนบ้านเรา
ไอ้สองแสนเยนนั่นยอด ติดลบ ต่อเดือนครับ ไม่ใช่ยอดรายได้
กว่าจะมีกินมีใช้ก็โน่นเลย รอ % จากยอดขายรวมเล่มออก (ถ้าขายไม่ออกก็ซวยอีก อาจต้องเลิกเขียนไปทำอย่างอื่น ไม่เหมือนในไทย ขายไม่ออก ยังไงนักเขียนก็มีกินจากค่าต้นฉบับไปแล้ว ส่วนนายทุนก็รับบทล่มจมไปแล้วกัน)
อย่าพยายามพรีเซนต์ความลำบากของมืออาชีพในไทยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นให้มันเวอร์จนเกินความเป็นจริงเลยครับ นักเขียนทางโน้นเขาก็ลำบากเหมือนกัน แต่อาจจะคนละแบบกับบ้านเราเท่านั้นเอง เอามาพูดแบบนี้คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเขาจะหลงเชื่อเอา ภาพลักษณ์ของวงการมันยิ่งได้เน่าเกินความเป็นจริงไปอีก แล้วอีกหน่อยใครจะกล้ามาล่ะครับเนี่ย ดูสิ้นหวังโคตรๆ ทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้น
ทีเรื่องที่นักเขียนไทยได้เปรียบญี่ปุ่น ไม่พูดบ้างล่ะครับ
อย่างเรื่องอัตราการแข่งขันที่ต่ำโคตรๆ เมื่อเทียบกับทางโน้น ค่าครองชีพที่ต่ำสุดๆ เมื่อเทียบกับทางโน้น ระดับความกดดันที่มีต่อยอดขายและผลกำไรมีผลต่อการทำวิชาชีพนี้ต่อไปต่างกันขนาดไหน อะไรเงี้ย
ต่อให้ทั้งสองเล่มเป็นของคนไทยวาดทั้งคู่ ผมก็ไม่เลือกอ่านของ VBK ครับ
ต่อให้วาดสวยกว่านี้สัก 100 เท่า แต่คาแรคเตอร์บนปกมันไม่ค่อยน่าอ่านเท่าไหร่เลย
ไม่ค่อยรู้สึกอะไรครับ เพราะคิดว่าถ้าเทียบกับโปรเจ็คต์การ์ตูนจากหนังของ cts ระดับความน่าสนใจก็พอๆ กันน่ะแหละ
คนญี่ปุ่นเขาท่าทางชอบหนังบู๊แอ็คชั่นทำนองนี้อยู่แล้ว แบบไม่ใช่ตัวแสดงแทนเนี่ย เคยอ่านพวก 1/4 ในการ์ตูนบางเรื่อง คนเขียนมีพูดถึงจา พนม ประมาณว่าดูหนังแล้วปลื้มมากด้วย เพราะงั้นมาเห็นคนญี่ปุ่นเอาเรื่องนี้ไปเขียนเลยคิดว่าไม่น่าแปลกใจครับ
ญี่ปุ่นเขาได้กันหน้าละ 10000 เยนครับ (อ่านว่า "หนึ่งหมื่นเยน") ไม่ใช่ 200000 เยน (อ่านว่า "สองแสนเยน")peterpan-killer พิมพ์ว่า:ถ้ามีคนหนับหนุนออกค่าจ้างผู้ช่วย ผมว่างานคงคุณภาพดีกว่านี้เยอะเลยอะครับ
หน้าละ200บาท มันจะสู้ 200000เยนได้ไงเนอะ
แถมทางโน้นค่าครองชีพสูงลิบลิ่ว แค่บะหมี่ยืนกินยังตกชามละสองสามร้อยบาท ไม่ใช่ข้าวแกงจานละ 25 น้ำเปล่าฟรี เหมือนบ้านเรา
ไอ้สองแสนเยนนั่นยอด ติดลบ ต่อเดือนครับ ไม่ใช่ยอดรายได้
กว่าจะมีกินมีใช้ก็โน่นเลย รอ % จากยอดขายรวมเล่มออก (ถ้าขายไม่ออกก็ซวยอีก อาจต้องเลิกเขียนไปทำอย่างอื่น ไม่เหมือนในไทย ขายไม่ออก ยังไงนักเขียนก็มีกินจากค่าต้นฉบับไปแล้ว ส่วนนายทุนก็รับบทล่มจมไปแล้วกัน)
อย่าพยายามพรีเซนต์ความลำบากของมืออาชีพในไทยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นให้มันเวอร์จนเกินความเป็นจริงเลยครับ นักเขียนทางโน้นเขาก็ลำบากเหมือนกัน แต่อาจจะคนละแบบกับบ้านเราเท่านั้นเอง เอามาพูดแบบนี้คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเขาจะหลงเชื่อเอา ภาพลักษณ์ของวงการมันยิ่งได้เน่าเกินความเป็นจริงไปอีก แล้วอีกหน่อยใครจะกล้ามาล่ะครับเนี่ย ดูสิ้นหวังโคตรๆ ทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้น
ทีเรื่องที่นักเขียนไทยได้เปรียบญี่ปุ่น ไม่พูดบ้างล่ะครับ
อย่างเรื่องอัตราการแข่งขันที่ต่ำโคตรๆ เมื่อเทียบกับทางโน้น ค่าครองชีพที่ต่ำสุดๆ เมื่อเทียบกับทางโน้น ระดับความกดดันที่มีต่อยอดขายและผลกำไรมีผลต่อการทำวิชาชีพนี้ต่อไปต่างกันขนาดไหน อะไรเงี้ย
แก้ไขล่าสุดโดย TRipLE เมื่อ Tue 22 Sep 2009 - 21:19, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
เห็นแล้วอยากอ่าน ไม่ขอคอมเมนต์ในแง่นักเขียนไทยก็แล้วกันค่ะ เดี๋ยวจะก่อเกิดดราม่า(ฮา)
เห็นหน้านึงได้ 2 แสนเยนแล้วตื่นตะลึง ถ้าตีว่าเล่มนึงเขียนได้ 180 หน้า แล้วเขียนได้ 20 เล่ม ก็ได้เงิน 720ล้านเยน ถ้าได้ก็เยอะดีเนอะ เงินไทยก็ไปหารเอาเองเด้อ
เห็นหน้านึงได้ 2 แสนเยนแล้วตื่นตะลึง ถ้าตีว่าเล่มนึงเขียนได้ 180 หน้า แล้วเขียนได้ 20 เล่ม ก็ได้เงิน 720ล้านเยน ถ้าได้ก็เยอะดีเนอะ เงินไทยก็ไปหารเอาเองเด้อ
Smilo- Beginner
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
..อ้าวพิมพ์ผิด
แก้ไขล่าสุดโดย peterpan-killer เมื่อ Wed 23 Sep 2009 - 1:35, ทั้งหมด 2 ครั้ง
peterpan-killer- Silver Star
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
[quote="peterpan-killer"]อ้อ ผมอ่านผิดน่ะครับ เขานับเป็นตอนน่ะครับแหะๆ ไม่แข็งภาษาครับ
ส่วนเรื่องที่ว่าระบบการทำงาน ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับแต่ละประเทศก็ต่างกันไปข้อนี้ก็รู้ดีครับ ฮะๆ
แต่ว่าด้วยใจที่อยากทำงานเป็นทีมบ้าง พยายามเกาะและผลักดันเพื่อนๆให้เป็นกลุ่มช่วยงานกันแต่ไม่สำเร็จเสียที ผมเองก็ไม่ได้เป็นนักเขียนที่มีดีพอจะโอ้อวดอะไรเลย แต่ที่ผมทำไปก็เพราะรักการ์ตูนไทยอย่างแท้จริงในรูปแบบของผมเท่านั้นเองครับ (ตอนที่exeดังจนเป็นเกมส์หรือตอนที่อ๊อคคิงได้ลงckidผมยังไปนอนดิ้นที่สตูดิโอด้วยความภูมิใจเลยครับ...อาย) คนที่ใจรักก็ขออาสามาช่วยผมฟรีๆก็มีเยอะอะครับ ผมเลยแค่รู้สึกว่าเขาน่าจะได้รับโอกาศและการสนับสนุนดีๆให้สมกับที่พวกเขาอุตสาห์พยายามฝึกฝนตัวเองน่ะครับ ฮะๆ
แต่สุดท้ายตอนนี้ก็ต้องมาทำเองทั้งหมดแล้วครับ เพื่องานจะได้มีคุณภาพพอให้โลกยอมรับแล้วค่อยลากคนอื่นๆตามไปด้วย
ส่วนเรื่องที่ว่าระบบการทำงาน ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับแต่ละประเทศก็ต่างกันไปข้อนี้ก็รู้ดีครับ ฮะๆ
แต่ว่าด้วยใจที่อยากทำงานเป็นทีมบ้าง พยายามเกาะและผลักดันเพื่อนๆให้เป็นกลุ่มช่วยงานกันแต่ไม่สำเร็จเสียที ผมเองก็ไม่ได้เป็นนักเขียนที่มีดีพอจะโอ้อวดอะไรเลย แต่ที่ผมทำไปก็เพราะรักการ์ตูนไทยอย่างแท้จริงในรูปแบบของผมเท่านั้นเองครับ (ตอนที่exeดังจนเป็นเกมส์หรือตอนที่อ๊อคคิงได้ลงckidผมยังไปนอนดิ้นที่สตูดิโอด้วยความภูมิใจเลยครับ...อาย) คนที่ใจรักก็ขออาสามาช่วยผมฟรีๆก็มีเยอะอะครับ ผมเลยแค่รู้สึกว่าเขาน่าจะได้รับโอกาศและการสนับสนุนดีๆให้สมกับที่พวกเขาอุตสาห์พยายามฝึกฝนตัวเองน่ะครับ ฮะๆ
แต่สุดท้ายตอนนี้ก็ต้องมาทำเองทั้งหมดแล้วครับ เพื่องานจะได้มีคุณภาพพอให้โลกยอมรับแล้วค่อยลากคนอื่นๆตามไปด้วย
peterpan-killer- Silver Star
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ดูจากนิสัยการทำงานของนักวาดไทยแล้ว การทำงานเป็นทีมนี่ เหมือนมันจะมีปัญหาหนักอกหนักใจหลายๆ อย่าง ที่มากกว่าเรื่องเงินครับ
เช่นว่า นักวาดไทยที่พอจะมีฝีมือสูงหน่อย จะไม่อยากเป็นผู้ช่วย ตอนที่คิดว่าตัวเองยังไม่เก่งพอ ถึงจะยอมเป็น เพื่อจะได้ประโยชน์ในการเรียนรู้ ให้มืออาชีพมานั่งสอนงาน ช่วงแรกๆ งานที่ได้รวมๆ ก็เลยออกมาค่อนข้างแย่
แต่พอเขาสอนให้จนทำเป็นหมดแล้ว งานเริ่มออกมาดูดีลงตัว ทำให้เริ่มคิดว่าตัวเองเก่งพอแล้ว ก็จะอยากออกจากทีมไปสร้างงานที่เป็นชื่อของตัวเอง กลายเป็นว่าที่เหลือในทีมหรือคนที่เข้าใหม่ก็มีแต่พวกทำอะไรไม่เป็นให้ต้องมานั่งสอนกันใหม่อีก พอคนเก่าเริ่มทำเป็นแล้วก็ออกไปอีก วนลูปเป็นวงจรอุบาทว์ไม่จบไม่สิ้น
ยิ่งคนจะไปเป็นผู้ช่วยบางคนท่าจะอาการหนักคิดว่าแค่วาดคนเป็นก็เขียนการ์ตูนได้แล้ว วันๆ วาดแต่รุปคน ฉากเฉิก เท็กซ์เจอร์อะไร ไม่มีอยู่ในหัวสักอย่าง แล้วจะมาช่วยวาดอะไร ถ้าจะจ้างก็ต้องมานั่งสอนใหม่หมด บางคนวาดได้หลายอย่าง แต่สไตล์งานไม่ได้เข้ากับต้นฉบับสักนิด ถ้าปรับให้เข้ากันไม่ได้ก็กลายเป็นปัญหาอีก
ถ้าเป็นทีมแล้วจะอยู่กันยืด ก็คงต้องทีมแบบช่วยกันวาด 2-3 คนแล้วมีชื่อขึ้นปกทุกคน อย่างคนวาด orge king ที่ช่วยกันทำงานแล้วก็มีชื่อขึ้นทั้งคู่
แต่ถ้าเป็นแบบนักเขียนหลักเอาเครดิตคนเดียว ผู้ช่วยงานหนักพอกัน ได้ค่าจ้างเพียงน้อยนิด ก็คงไม่มีใครอยากอยู่ทำงานเป็นผู้ช่วยนาน เข้าวงจรอุบาทว์อีก ยกเว้นผู้ช่วยจะรักงานของนักเขียนคนนั้นเป็นการส่วนตัวขนาดว่าตัวเองเก่งแล้วก็ยังไม่อยากไปไหน ไม่ได้ชื่อเสียงก็เอา
หรือถ้าเป็นงานที่ไม่ใช่ออริจินัล เช่น การ์ตูนความรู้ ที่เขาก็ทำงานกันเป็นทีมจริงๆ เครดิตได้กันเป็นชื่อทีมหรือชื่อ สนพ. ไปเลยแล้วค่อยไปเขียนแจกแจงในเล่มเอาว่าแต่ละฝ่ายมีคนชื่ออะไรทำอะไรบ้าง (ซึ่งก็เหมือนไม่ได้เครดิตชื่อเสียงอะไรอยู่ดี แต่ก็ไม่ได้กันทั้งกลุ่ม) อันนี้นักวาดก็น่าจะอยู่ทำได้เรื่อยๆ ตราบใดที่ไม่เบื่อว่าอยากมีงานออริจินัลที่เป็นชื่อตัวเองเต็มๆ สักที
ป.ล. แล้วจะอ้าง exe ขึ้นมาทำไมครับเนี่ย เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่คุยกันอยู่หรือก็เปล่า - -"
เช่นว่า นักวาดไทยที่พอจะมีฝีมือสูงหน่อย จะไม่อยากเป็นผู้ช่วย ตอนที่คิดว่าตัวเองยังไม่เก่งพอ ถึงจะยอมเป็น เพื่อจะได้ประโยชน์ในการเรียนรู้ ให้มืออาชีพมานั่งสอนงาน ช่วงแรกๆ งานที่ได้รวมๆ ก็เลยออกมาค่อนข้างแย่
แต่พอเขาสอนให้จนทำเป็นหมดแล้ว งานเริ่มออกมาดูดีลงตัว ทำให้เริ่มคิดว่าตัวเองเก่งพอแล้ว ก็จะอยากออกจากทีมไปสร้างงานที่เป็นชื่อของตัวเอง กลายเป็นว่าที่เหลือในทีมหรือคนที่เข้าใหม่ก็มีแต่พวกทำอะไรไม่เป็นให้ต้องมานั่งสอนกันใหม่อีก พอคนเก่าเริ่มทำเป็นแล้วก็ออกไปอีก วนลูปเป็นวงจรอุบาทว์ไม่จบไม่สิ้น
ยิ่งคนจะไปเป็นผู้ช่วยบางคนท่าจะอาการหนักคิดว่าแค่วาดคนเป็นก็เขียนการ์ตูนได้แล้ว วันๆ วาดแต่รุปคน ฉากเฉิก เท็กซ์เจอร์อะไร ไม่มีอยู่ในหัวสักอย่าง แล้วจะมาช่วยวาดอะไร ถ้าจะจ้างก็ต้องมานั่งสอนใหม่หมด บางคนวาดได้หลายอย่าง แต่สไตล์งานไม่ได้เข้ากับต้นฉบับสักนิด ถ้าปรับให้เข้ากันไม่ได้ก็กลายเป็นปัญหาอีก
ถ้าเป็นทีมแล้วจะอยู่กันยืด ก็คงต้องทีมแบบช่วยกันวาด 2-3 คนแล้วมีชื่อขึ้นปกทุกคน อย่างคนวาด orge king ที่ช่วยกันทำงานแล้วก็มีชื่อขึ้นทั้งคู่
แต่ถ้าเป็นแบบนักเขียนหลักเอาเครดิตคนเดียว ผู้ช่วยงานหนักพอกัน ได้ค่าจ้างเพียงน้อยนิด ก็คงไม่มีใครอยากอยู่ทำงานเป็นผู้ช่วยนาน เข้าวงจรอุบาทว์อีก ยกเว้นผู้ช่วยจะรักงานของนักเขียนคนนั้นเป็นการส่วนตัวขนาดว่าตัวเองเก่งแล้วก็ยังไม่อยากไปไหน ไม่ได้ชื่อเสียงก็เอา
หรือถ้าเป็นงานที่ไม่ใช่ออริจินัล เช่น การ์ตูนความรู้ ที่เขาก็ทำงานกันเป็นทีมจริงๆ เครดิตได้กันเป็นชื่อทีมหรือชื่อ สนพ. ไปเลยแล้วค่อยไปเขียนแจกแจงในเล่มเอาว่าแต่ละฝ่ายมีคนชื่ออะไรทำอะไรบ้าง (ซึ่งก็เหมือนไม่ได้เครดิตชื่อเสียงอะไรอยู่ดี แต่ก็ไม่ได้กันทั้งกลุ่ม) อันนี้นักวาดก็น่าจะอยู่ทำได้เรื่อยๆ ตราบใดที่ไม่เบื่อว่าอยากมีงานออริจินัลที่เป็นชื่อตัวเองเต็มๆ สักที
ป.ล. แล้วจะอ้าง exe ขึ้นมาทำไมครับเนี่ย เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่คุยกันอยู่หรือก็เปล่า - -"
แก้ไขล่าสุดโดย TRipLE เมื่อ Thu 24 Sep 2009 - 20:43, ทั้งหมด 1 ครั้ง
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ในฐานะนักอ่านและนักเขียน(ที่เขียนการ์ตูนเพราะสนุก+ได้ตังค์ ไม่มีเป้าหมายอื่น )...
สำหรับเรื่องนี้น่าอ่านแฮะ ปลื้มมมมมกะคนไทยที่โกอินเตอร์อะ
ไทยจะซื้อลิขสิทธิ์มาป่าวหว่า...
ชอบเวลาญี่ปุ่นวาด พวกบรรยากาศจะได้อารมณ์ของประเทศนั้นๆมากเลย เหมาะดี
ส่วนเรื่องตังค์นักเขียนจะได้เท่าไรก็ไม่ต้องคิดมากกันนะ
ถ้ารู้จักบริหารเงินเป็นก็ชิลๆแหละ
สำหรับเรื่องนี้น่าอ่านแฮะ ปลื้มมมมมกะคนไทยที่โกอินเตอร์อะ
ไทยจะซื้อลิขสิทธิ์มาป่าวหว่า...
ชอบเวลาญี่ปุ่นวาด พวกบรรยากาศจะได้อารมณ์ของประเทศนั้นๆมากเลย เหมาะดี
ส่วนเรื่องตังค์นักเขียนจะได้เท่าไรก็ไม่ต้องคิดมากกันนะ
ถ้ารู้จักบริหารเงินเป็นก็ชิลๆแหละ
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ถ้าเลี้ยงชีพด้วยการ์ตูนได้ตลอดชีวิต....ก็ดีสินะ..... อ๊ะ หลงประเด็นละ
WanTaLeng- Lucky Star
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ประเดินเริ่มหนักแฮะ สนับสนุนๆการ์ตูนไทยต่อไปกันดีกว่านะครับผม
นักเขียนจะได้มีใจจะพัฒนางานตัวเองให้เยี่ยมๆขึ้นไปอีกไงครับ
นักเขียนจะได้มีใจจะพัฒนางานตัวเองให้เยี่ยมๆขึ้นไปอีกไงครับ
suyokung- Bronze Star
- birth : 13/07/1989
Placement : ใต้นภารัตติกาลสีน้ำเงิน
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
เรื่องของเรื่องก็คือมีบริษัทตัวแทนผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์จากญี่ปุ่นซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อจัดฉาย-จำหน่าย(ดีวีดี ภาพยนตร์เรื่องตลก 69 ของเป็นเอก รัตนเรือง ก็เคยถูกซื้อไปฉายและจำหน่ายดีวีดีในประเทศประเทศญี่ปุ่น และแฟนภาพยนตร์ของคุณเป็นเอกก็ต้องไปซื้อจากที่นั่น)ในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นหากบริษัทดังกล่าวจะทำการใดเพื่อเป็นการโปรโมทสินค้าขงตนก็ไม่แปลก เพราะ Chocolate ไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ถูกนำมาวาดในคอมิกส์เวอร์ชั่น ก่อนหน้านี้เราก็เคยเห็น Terminator ในเวอร์ชั่นการ์ตูนมาแล้ว อีกทั้งองค์ประกอบของเรื่องก็เหมาะแก่การนำมาวาด ประเด็นก็แค่นี้เอง
เรื่องแย่งอู่ข้าวอู่น้ำนี่ คิดไปไกลนะ... ไม่มีใครแย่งหรอก คห. ข้างบนก็เอาเวอร์ชั่นการ์ตูนบ้านเรามาแปะให้ดูแล้ว
เรื่องแย่งอู่ข้าวอู่น้ำนี่ คิดไปไกลนะ... ไม่มีใครแย่งหรอก คห. ข้างบนก็เอาเวอร์ชั่นการ์ตูนบ้านเรามาแปะให้ดูแล้ว
Alcoholo- ผู้มาเยือน
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ในเมื่อคนไทยไม่รักของไทย แล้ว ก็ไม่มี คนทำจริงๆจังๆ ก็ต้องให้ ชาติ อื่นทำสิครับ ไม่เห็นแปลก เก็บไว้กะไม่ได้อะไร
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมี งาน หนึ่ง ชิ้น แต่พอนำไปเสนอไม่มีใครสนใจ คุณก็คงเก็บมันไว้บนหิ้ง แต่ถ้ามี สักคน สนใจถึงแม้จะเป็นคนชาติอื่นก็ตาม คุณจะไว้บนหิ้ง หรือ ให้เขาไปทำหละครับ
แต่ดูเอาครับเป็นแนวทาง การ์ตูนไทย ลายเส้นญี่ปุ่น เป็นแบบไหน ดูได้เลย
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมี งาน หนึ่ง ชิ้น แต่พอนำไปเสนอไม่มีใครสนใจ คุณก็คงเก็บมันไว้บนหิ้ง แต่ถ้ามี สักคน สนใจถึงแม้จะเป็นคนชาติอื่นก็ตาม คุณจะไว้บนหิ้ง หรือ ให้เขาไปทำหละครับ
แต่ดูเอาครับเป็นแนวทาง การ์ตูนไทย ลายเส้นญี่ปุ่น เป็นแบบไหน ดูได้เลย
zosimus- ผู้มาเยือน
Re: =A=สุดยอดเลย หนังไทยญี่ปุ่นเอาไปวาด
ไม่ต้องแล้วล่ะ ดราม่าตั้งแต่แรกแล้ว(เริ่มฮาไม่ออก)
ยกตัวอย่างเหมือนกัน ตอนพวกออกโตมาน เติร์ก คิดจะบุกคอสแตนตินโนเปิล มีชายคนหนึ่ง(ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ถ้ารู้แล้วจะมาบอกนะ)คิดค้นปืนใหญ่เพื่อถล่มกำแพงเมือง แต่กลับถูกจักรพรรดิของไบเซนไทน์ปฏิเสธ เพราะเหตุผลว่า กำแพงเมืองคอนสแตนตินโนเปิลนี้สูงใหญ่ และแข็งแรง ไม่มีทางพังเด็ดขาด ชายคนนั้นจึงนำนวัตกรรมของเขามาเสนอแก่สุลต่านแห่งออกโตมาน เติร์ก (จำได้ว่าชื่อ สุลต่าน สุไลมาน) ซึ่งสุลต่านท่านนั้นสนใจและรับเขามาเพื่อสร่างปืนใหญ่เพื่อโจมตีกรุงคอนสแตนตินโนเปิล สุดท้าย กรุงคอนสแตนตินโนเปิลก็ถูกตีแตกด้วยปืนใหญ่ที่ชายผู้นั้นคิดค้น ซึ่งปืนใหญ่ที่ออกโตมาน เติร์กใช้โจมตีเมืองก็คือ "มอสเตอร์ บอมบาร์ด" นั่นเอง
เหตุผลนี่แหละ ผมเลยไม่คิดอะไรมากกับเรื่องนี้แล้ว
zosimus พิมพ์ว่า:ยกตัวอย่าง ถ้าคุณมี งาน หนึ่ง ชิ้น แต่พอนำไปเสนอไม่มีใครสนใจ คุณก็คงเก็บมันไว้บนหิ้ง แต่ถ้ามี สักคน สนใจถึงแม้จะเป็นคนชาติอื่นก็ตาม คุณจะไว้บนหิ้ง หรือ ให้เขาไปทำหละครับ
ยกตัวอย่างเหมือนกัน ตอนพวกออกโตมาน เติร์ก คิดจะบุกคอสแตนตินโนเปิล มีชายคนหนึ่ง(ชื่ออะไรก็ไม่รู้ ถ้ารู้แล้วจะมาบอกนะ)คิดค้นปืนใหญ่เพื่อถล่มกำแพงเมือง แต่กลับถูกจักรพรรดิของไบเซนไทน์ปฏิเสธ เพราะเหตุผลว่า กำแพงเมืองคอนสแตนตินโนเปิลนี้สูงใหญ่ และแข็งแรง ไม่มีทางพังเด็ดขาด ชายคนนั้นจึงนำนวัตกรรมของเขามาเสนอแก่สุลต่านแห่งออกโตมาน เติร์ก (จำได้ว่าชื่อ สุลต่าน สุไลมาน) ซึ่งสุลต่านท่านนั้นสนใจและรับเขามาเพื่อสร่างปืนใหญ่เพื่อโจมตีกรุงคอนสแตนตินโนเปิล สุดท้าย กรุงคอนสแตนตินโนเปิลก็ถูกตีแตกด้วยปืนใหญ่ที่ชายผู้นั้นคิดค้น ซึ่งปืนใหญ่ที่ออกโตมาน เติร์กใช้โจมตีเมืองก็คือ "มอสเตอร์ บอมบาร์ด" นั่นเอง
เหตุผลนี่แหละ ผมเลยไม่คิดอะไรมากกับเรื่องนี้แล้ว
siwawuth- Lucky Star
- birth : 08/12/1942
Placement : ร้านกาแฟ
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|